Categories
น้ำ

น้ำใบเตย

น้ำใบเตยให้คุณค่า มากกว่าความหอม

น้ำใบเตย

ใบเตย นับเป็นพืชที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติที่ไม่เหมือนใคร สรรพคุณมากมาย พร้อมให้คุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินบี วิตามินบี3 แคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัส ด้วยเหตุนี้เอง นอกจากเจ้าใบเตยจะถูกนิยมในวงการขนมไทยแล้ว ก็ยังนำมาทำเป็น น้ำใบเตย คั้นสด ที่อัดแน่นด้วยคุณประโยชน์เต็มแก้วอีกด้วย ทั้งหอม รสชาติดี และคุณประโยชน์มากมีขนาดนี้ วันนี้เราจึงนำสูตรทำน้ำใบเตยมาฝากกันค่ะ

วิธีทำ น้ำใบเตย ทำกินง่าย ทำขายปัง

น้ำใบเตย ถือเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี อากาศร้อน ๆ แบบนี้ใครที่กำลังมองหา เครื่องดื่มสุขภาพ ที่หอมเย็นชื่นใจแนะนำน้ำใบเตยเลยค่ะ และน้ำใบเตยก็เป็นอีกเครื่องดื่มสมุนไพรที่สามารนำมามิกส์แอนด์แมทส์กับสมุนไพรไทยตัวอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น น้ำใบเตยมะลิ น้ำใบเตยมะนาว น้ำใบเตยตะไคร้ บอกเลยว่านอกจากรสชาติดีและ ประโยชน์ของใบเตย ก็มีมากมายไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า ไปดูสูตรทำ น้ำใบเตย เพื่อสุขภาพและเทคนิคดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันเลยดีกว่าค่ะ

วิธีต้มใบเตย

สิ่งที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  1. ใบเตยหอม
  2. เกลือป่น
  3. น้ำตาล ตามชอบ
  4. น้ำเปล่า ตามปริมาณใบเตย

ขั้นตอนการทำ

  1. นำใบเตยไปล้างให้สะอาด
  2. นำมาหั่นเป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว
  3. นำน้ำใส่ในหม้อต้ม ตั้งไฟกลาง จากนั้นนำใบเตยที่หั่นเป็นชิ้นแล้วใส่ลงไปต้ม รอจนน้ำเดือด
  4. เมื่อน้ำเดือดและเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบเตย ให้นำน้ำมากรอกเอากากออก
  5. นำน้ำใบเตยมาพักทิ้งไว้ครู่หนึ่ง เพื่อให้น้ำใบเตยเซ็ทตัว
  6. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้จากนั้น คนให้ส่วนผสมเข้ากัน เสร็จตักใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ

เทคนิคการ ต้มใบเตยยังไงให้หอม

การต้มใบเตยนั้นใคร ๆ ก็ทำได้ แต่จะต้มใบเตยยังไงให้หอมนั้น เทคนิคอยู่ที่ ขั้นตอนการต้มใบเตย คือ ตั้งน้ำบนเตาให้เดือด ด้วยไฟกลาง แล้วนำใบเตยที่หั่นเป็นชิ้นแล้วขยำก่อนนำใส่ลงไปในหม้อเพื่อให้กลิ่นของใบเตยออกมา จะได้กลิ่นหอมดี หลังจากนั้นนำฝาหม้อมาปิดไว้เป็นเวลา 10-15นาที หากใบเตยยังไม่มีกลิ่นหอมก็ต้มต่ออีก 10 นาที เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำใบเตยที่มีกลิ่นหอมชื่นใจแล้วค่ะ

น้ำใบเตย

วิธีทำ น้ำใบเตยมะลิ เครื่องดื่มล้างปากยอดฮิต

น้ำใบเตยเป็นอีกเครื่องดื่มล้างปากหลังทานอาหารหวาน ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มตัดเลี่ยนได้ดีทีเดียว ทานคู่กับขนมหวาน เบเกอรี่นี่ก็แสนจะเข้ากัน วันนี้เราจึงนำเมนูตัดเลี่ยนอย่างสูตร น้ำใบเตยมะลิ มาฝากทุกคนได้ลองทำกันค่ะ สูตรนี้จะให้รสชาติหวานอ่อน ๆ เพื่อดื่มตัดเลี่ยนเมนูหวาน ๆ หรืออาหาร มัน ๆ รสชาติจะไม่หวานมาก ให้อารมณ์แบบ ชาใบเตย เป็นเมนูล้างปากที่คุณต้องติดใจอย่างแน่นอน

สิ่งที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  1. ดอกมะลิสด
  2. ใบเตยสด
  3. น้ำสะอาด
  4. น้ำตาล
  5. เกลือป่น
  6. น้ำมะนาว

ขั้นตอนการทำ

  1. นำดอกมะลิไปล้างจนสะอาด
  2. นำดอกมะลิไปคั่วไฟอ่อนจนมีกลิ่นมะลิหอมออกมา
  3. จากนั้นนำใบเตยที่หั่นไว้คั่วผสมลงไปในกระทะ
  4. นำน้ำใส่ในหม้อต้ม ตั้งไฟกลาง จากนั้นนำใบเตยที่คั่วแล้วใส่ลงไปต้ม รอจนน้ำเดือด
  5. เมื่อน้ำเดือดและเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบเตย ให้นำน้ำมากรอกเอากากออก
  6. นำน้ำใบเตยมาพักทิ้งไว้ครู่หนึ่ง เพื่อให้น้ำใบเตยเซ็ทตัว
  7. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้จากนั้น คนให้ส่วนผสมเข้ากัน เสร็จตักใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ

น้ำใบเตยสูตรทำขาย

สิ่งที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  1. ใบเตยสด 1 มัด
  2. น้ำตาล 500 กรัม
  3. น้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร

ขั้นตอนการทำ

  1. นำใบเตยไปล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำเกลือไว้เป็นเวลา 10นาที
  2. นำใบเตยมาหั่นให้ได้ขนาด 2 นิ้ว
  3. นำใบเตยไปปั่นให้ละเอียด
  4. คั้นน้ำใบเตย เอาเฉพาะน้ำ เอากากออก
  5. ตั้งหม้อบนเตา ใช้ไฟกลาง เทน้ำตาลลงไป จากนั้นใส่น้ำใบเตยที่คั้นไว้ลงไปตามด้วยใบเตยที่แยกไว้ใส่ลงไปเพิ่มความหอม
  6. ยกออกจากเตา นำมาพักไว้สักครู่
  7. ตักใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ

7 สรรพคุณน้ำใบเตย

  1. ช่วยบำรุงหัวใจ
  2. ช่วยดับกระหาย คลายร้อน
  3. ช่วยลดความดันโลหิต
  4. บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
  5. ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
  6. มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ
  7. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

          ใบเตย นับว่าเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่ครัวไทยมาอย่างช้านานเนื่องจากมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และรสชาติที่หอม หวาน ใบเตยจึงถูกนำมาเป็นวัตถุดิบ หรือ ส่วนผสมในอาหารไทยหลากหลายเมนู ทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพหนึ่งในนั้นน้ำใบเตย ที่มีสรรพคุณมากมาย ทั้งยังเป็นพืชสมุนไพรใกล้ตัวที่หาได้ไม่ยาก ประโยชน์ของใบเตย ไม่ได้มีแต่ความหอมที่ทุกคนคุ้นเคย แต่สามารถนำมาเป็นน้ำใบเตยรสชาติหอม หวาน ชื่นใจ และให้คุณประโยชน์ล้นแก้วอีกด้วยนะคะ

Categories
น้ำ

น้ำแอปเปิ้ลเขียว

น้ำแอปเปิ้ลเขียว เมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ชาวเฮลตี้ควรรู้

น้ำแอปเปิ้ลเขียว

เมนูสมูทตี้ น้ำแอปเปิ้ลเขียว สับปะรด นับว่าเป็นน้ำผลไม้ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มของคนที่อยากดูแลรูปร่างหรือต้องการลดน้ำหนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นความเปรี้ยวอมหวานของแอปเปิ้ลเขียวมาผสมผสานกับความเปรี้ยวปรี๊ดของสับปะรดแล้วนั้น บอกเลยว่ารสชาติเข้ากันได้ดีแบบสุด ๆ มีความหวานนิดอมเปรี้ยวหน่อย ๆ เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ขั้นสุดของวงการเครื่องดื่มเลยก็ว่าได้

น้ำแอปเปิ้ลเขียว

ส่วนประกอบใน สูตรสมูทตี้น้ำแอปเปิ้ลเขียว สับปะรด

ต้องบอกเลยว่า เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เมนูนี้มีความอร่อยที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะรสชาติโดยรวมของเครื่องดื่มชนิดนี้ค่อนข้างไปทางโซนเปรี้ยวเป็นหลัก จึงทำให้รู้สึกสดชื้นกระปรี้กระเปร่าทุกครั้งที่ได้ดื่ม แถม น้ำแอปเปิ้ลเขียว ยังมีส่วนช่วยที่สำคัญในเรื่องของการขับถ่ายและบำรุงผิวพรรณ ตัวเนื้อสัมผัสของสมูทตี้จะมีกากใยของแอปเปิ้ลและสับปะรดรวมอยู่ด้วยกัน ทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนานมากขึ้น  ลดความอยากรับประทานของจุกจิกระหว่างวันได้ ช่วยควบคุมความหิวให้กับร่างกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ

          ถือว่าเป็นเมนู แอปเปิ้ลปั่นเพื่อสุขภาพ ที่เข้ามาช่วยปรับระบบการย่อยอาหาร การเผาผลาญและการขับถ่ายในผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการทำความสะอาดระบบภายในของตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดีหรือการปรับสภาพของกระเพาะอาหารและลำไส้ให้มีความสะอาดและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถดูดซึมแร่ธาตุหรือวิตามินที่มีประโยชน์ต่าง ๆ จากอาหารที่เราทานเข้าไปได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ส่วนผสม สมูทตี้น้ำแอปเปิ้ลเขียวสับปะรด

  1. สับปะรด         300     กรัม
  2. มะนาว            1        ลูก
  3. แอปเปิ้ลเขียว    1        ลูก
  4. น้ำแข็ง

ขั้นตอนและวิธีการทำเมนูสมูทตี้ น้ำแอปเปิ้ลเขียว สับปะรด

น้ำแอปเปิ้ลเขียว

ขั้นตอน วิธีคั้นน้ำแอปเปิ้ล

  1. ล้างแอปเปิ้ลให้สะอาด แล้วนำมาปลอกเปลือก
  2. ผ่าผลของแอปเปิ้ลให้มีขนาดที่เหมาะสม
  3. นำชิ้นของแอปเปิ้ลใส่ลงไปในเครื่องคั้นแยกกาก

ขั้นตอนการทำเมนูสมูทตี้น้ำแอปเปิ้ลเขียวสับปะรด เมนูปั่นเพื่อสุขภาพ

  1. คั้นน้ำสับปะรดออกมาแล้วผสมกับน้ำมะนาวและ น้ำแอปเปิ้ลเขียว ให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  2. ใส่น้ำที่คั้นได้ลงไปในโถเครื่องปั่น จากนั้นเติมเนื้อของแอปเปิ้ลเขียวลงไปเล็กน้อย
  3. ปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกันที่เนียนละเอียด
  4. เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งบรรจุเตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ

          สูตรสมูทตี้ น้ำแอปเปิ้ลเขียว สับปะรด ที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ น่ารับประทานไหมคะ เมนูนี้ถือว่าเป็น เมนูสุขภาพ อย่างแท้จริง เพราะอย่างที่สาว ๆ ต่างรู้กันดีว่า ประโยชน์ของแอปเปิ้ล นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะช่วยเสริมสร้างอิลาสตินคอลลาเจนที่เข้ามาฟื้นฟูและเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้ผิวพรรณยืดหยุ่นกระชับมากขึ้น อยากรู้กันใช่ไหมเอ่ยว่า แอปเปิ้ลเขียวกี่แคลกันนะ แอปเปิ้ลเขียว 100 กรัมจะอยู่ที่ประมาณ 58 กิโลแคลอรีเพียงเท่านั้น จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี แถมพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าน้ำ แอปเปิ้ลปั่นลดความอ้วน ได้

Categories
น้ำ

น้ำแครอท

น้ำแครอท  น้ำผักในตำนานราชินีแห่งเบต้าแคโรทีน

น้ำแครอท

น้ำแครอท เป็นผักตระกูลพืชสีส้มที่มีเบตาแคโรทีน ช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้ผิวสวยกระจ่างใส เปล่งปลั่ง อ่อนวัยและยังช่วยบำรุงเล็บ ช่วยบำรุงอวัยวะภายในอย่างตับอีกด้วย เหมาะกับคนที่ดูแลสุขภาพและต้องการลดน้ำหนัก ที่สำคัญอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินซี และวิตามินเค รวมถึงแร่ธาตุหลากหลายชนิด

ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ใครหลาย ๆ คนคงไม่ชอบทานแครอทที่เป็นชิ้นสด ๆ แข็ง ๆ การนำแครอทมาทำเป็นน้ำแครอท จึงเป็นทางเลือกอีกทางของคนรักสุขภาพที่สามารถทำได้ง่ายด้วยตนเองที่บ้านและที่สำคัญคือดื่มง่าย แถมวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก สรรพคุณก็มากมี แครอทจึงเป็นผักที่คนนิยมนำมาทำเป็นน้ำผักคั้นสดอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของคนรักสุขภาพเลยทีเดียว

วิธีทำน้ำแครอท แบบง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน

เป็นเครื่องดื่มที่สามารถนำมามิกส์แอนด์แมทส์กับผลไม้อื่น ๆ ได้เมนูเครื่องดื่มหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำแครอทแอปเปิ้ล น้ำแครอทสับปะรด หรือน้ำแครอทมะนาว เรียกได้ว่า น้ำแครอท เป็น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่สามารถครีเอทออกมาได้อย่างไม่จำเจและสามารถทานได้ทุกวันจะคั้นเป็นน้ำผลไม้ดื่มสด ๆ ซดจนหมดแก้ว หรือจะปั่นเป็นสมูทตี้ใส่น้ำแข็งแบบสดชื่นถึงใจก็แล้วแต่จะบันดาลใจ แถมดีต่อสุขภาพอีกด้วยน้ำแครอท จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำให้ลองทำกัน แค่จิบวันละนิดก็มีผิวที่สดใสได้จากธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งยาหรือฉีดผิวแบบเสี่ยงชีวิต

วิธีทำน้ำแครอท100%

ส่วนผสมน้ำแครอท มีดังนี้

  1. แครอท 1 กิโล
  2. น้ำมะนาวสด 60 มิลลิลิตร
  3. เกลือผง 2 ช้อนชา
  4. น้ำตาล 40 กรัม
  5. น้ำ 20 มิลลิลิตร

ขั้นตอนการทำ

  1. นำแครอทไปล้างให้สะอาด
  2. หั่นแครอทเป็นแว่นเล็ก แล้วนำไปใส่ในเครื่องปั่น จะได้น้ำแครอทสด100%
  3. นำน้ำแครอทที่คั้นเสร็จแล้วมาใส่หม้อต้ม เทส่วนผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมดลงไป และตั้งไว้จนน้ำเดือด
  4. จัดเสิร์ฟใส่แก้ว พร้อมดื่ม

          สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนัก น้ำแครอทก็เป็นอีกหนึ่งเมนูน้ำผักที่สามารถ ลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี โดยสามารถใช้สูตรและขั้นตอนการทำข้างต้นได้เลย แต่ไม่ต้องใส่เครื่องปรุงหรือส่วนผสม คือ สามารถทานได้แบบคั้นสดไปเลย บอกเลยว่ายิ่งดีต่อสุขภาพไม่มีน้ำตาลมากวนใจ

วิธีทำ น้ำแครอท สกัดเย็น ทานง่าย สไตล์โฮมเมด

น้ำแครอท

สำหรับเมนู น้ำแครอทสูตรสกัดเย็น เป็น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่ทำง่าย เป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่อยากแนะนำ ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย แถมอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมายอีกด้วย

ส่วนผสม มีดังนี้

  1. แครอท 3 หัว
  2. น้ำมะนาวสด 30 มิลลิลิตร
  3. น้ำสะอาด
  4. เกลือ

ขั้นตอนการทำ

  1. นำแครอทไปล้างจนสะอาด
  2. หั่นแครอทเป็นแว่นเล็ก ๆ แล้วใส่ในเครื่องสกัดเย็น
  3. นำน้ำแครอทที่สกัดเย็นมาปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้
  4. เทใส่แก้วเสิร์ฟ พร้อมดื่ม

น้ำแครอทสรรพคุณ 10 ประการ

  1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ขาว เนียน ใส ดูอ่อนกว่าวัย ลดริ้วรอยแห่งวัย
  2. ช่วยบำรุงสายตา ผมและเล็บ
  3. เสริมสร้างประสิทธิภาพในระบบการไหลเวียนโลหิต
  4. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อร่างกาย
  5. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  6. ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
  7. ช่วยขับปัสสาวะ
  8. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งและป้องกันผิวจากรังสียูวี
  9. เบต้าแคโรทีนในแครอทช่วยบำรุงเส้นผมละหนังศีรษะให้แข็งแรง
  10. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

แครอท เป็นพืชใต้ดินที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งเบตาแคโรทีนชั้นดี ทั้งยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์หลากหลาย คนจึงนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในเมนูอาหารเพื่อเพิ่มสีสันให้กับอาหารจานโปรดให้ดูน่าทานมากยิ่งขึ้น และเจ้าแครอทก็ยังเป็นอีกหนึ่งในเมนูน้ำผัก ที่สามารถนำมาทำเป็นน้ำแครอท เพื่อสุขภาพที่ดื่มง่ายแต่ ประโยชน์ของแครอท นั้นมีมากมาย เด็กดื่มได้ ผู้ใหญ่ดื่มดี

Categories
น้ำ

น้ำองุ่น

เคล็ดลับการทำ น้ำองุ่น ให้อร่อย ที่คนรักองุ่นไม่ควรพลาด

น้ำองุ่น

องุ่น เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และมีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ และบำรุงสมอง อีกทั้งยังสามารถช่วยขับปัสสาวะ และแก้ภาวะกระหายน้ำได้อย่างดี เพราะภายใน องุ่น ยังอุดมไปด้วย น้ำตาล, กลูโคส, วิตามินเอ,วิตามินซี,เหล็ก, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส และกรดซิตริก นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย หากองุ่นจะกลายมาเป็น Favorite Food ของใครหลาย ๆ คน ดังนั้น หากใครรู้ตัวว่าชอบทาน องุ่น เป็นชีวิตจิตใจ ก็ไม่ควรพลาดไปกับเมนูเครื่องดื่ม ที่เราหยิบมานำเสนอกันในวันนี้ นั่นก็คือเคล็ดลับ วิธีการทำ น้ำองุ่น ที่สามารถเก็บไว้ดื่มได้ทุกเมื่อ ยามที่คุณต้องการ

น้ำองุ่น

วิธีทำเมนูเครื่องดื่ม น้ำองุ่น แบบง่าย ๆ ฉบับรวบรัด

เคล็ดลับความอร่อยของ น้ำองุ่น คือการใช้ผลองุ่นที่สุกได้ที่ และการปรุงรสชาติต้องพอดี ไม่หวานจนเกินไป และไม่ฝาดจนเกินไป นั่นจึงจะทำให้ได้ น้ำองุ่นเข้มข้น ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่รักการรับประทานองุ่นเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อได้อีกอย่างว่าคงต้องมีหลายคนสงสัยว่าแล้ว องุ่นทำอะไรได้บ้าง จริง ๆ แล้ว องุ่น เป็นผลไม้ที่สามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้หลากหลายเมนูเป็นอย่างมากเหมือนดังเช่น เมนูแรก นั่นก็คือน้ำองุ่น ในรูปแบบของการปั่น ที่นับว่ามีขั้นตอนในการทำง่ายมาก ๆ ดังนี้

ส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีดังนี้

  1. องุ่น                     2 ถ้วยตวง
  2. น้ำต้มสุก                4 ถ้วยตวง
  3. น้ำเชื่อม                 1 ถ้วยตวง
  4. เกลือ                    1 ช้อนชา

ขั้นตอนในการทำ น้ำองุ่นปั่น

  1. ล้างองุ่นให้สะอาด ผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก
  2. ใส่องุ่นลงในเครื่องปั่นผลไม้ แล้วเติมน้ำเชื่อม, เกลือ, น้ำต้มสุก, น้ำแข็ง แล้วปั่นละเอียดให้เข้ากัน
  3. เทใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟได้เลย

ยกระดับความอร่อยของน้ำองุ่นปั่น ด้วยการใส่ โยเกิร์ต

สำหรับใครที่เบื่อเมนูน้ำองุ่นแบบเดิม ๆ แล้ว ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเรายังมีเมนูที่สองมาแนะนำ ซึ่งก็คือ สมูทตี้องุ่น ที่สามารถช่วยยกระดับความอร่อยให้มีได้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการใส่ โยเกิร์ต ที่ขอบอกเลยว่านี่คือ เมนูน้ำองุ่น สุดแสนอร่อย สามารถทำได้ง่าย แถมไม่อ้วน ซึ่งเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่รักการดูแลสุขภาพ เป็นอย่างยิ่ง

ส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีดังนี้

  1. องุ่น                               10 ลูก
  2. นมสดจืด หรือ นมเปรี้ยว        1 กล่อง
  3. น้ำแข็ง                            มากน้อยตามต้องการ
  4. โยเกิร์ต รสธรรมชาติ             1 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ มีดังนี้

  1. ล้างองุ่นให้สะอาด และแกะเมล็ดองุ่นออก
  2. ใส่องุ่น, โยเกิร์ต, น้ำแข็ง และนมลงในเครื่องปั่นผลไม้
  3. ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วเทลงแก้ว พร้อมเสิร์ฟจ้า

เคล็ดลับการทำน้ำองุ่น ให้อร่อย

  1. ผลองุ่นให้เลือกผลสด ๆ สีม่วงการสังเกตผลองุ่นที่สด คือ ผลองุ่นต้องตึงไม่เหี่ยวย่น การเตรียมผลองุ่นสำหรับนำมาทำน้ำองุ่น ให้ผ่าครึ่ง เอาเม็ดออก เนื่องจากเม็ดขององุ่นจะให้ความขมและมีรสชาติฝาด
  2. น้ำเชื่อมต้องผสมเกลือเล็กน้อย จะได้น้ำเชื่อมที่อร่อยรสชาติพอดี
  3. สำหรับน้ำองุ่น ต้องกินแบบเย็น ๆ โดยแนะนำให้ใช้การแช่เย็นจะได้น้ำองุ่นที่เข้มข้นและเย็นสดชื่น ซึ่งดีกว่าการนำไปใส่น้ำแข็ง

          จบกันไปแล้วสำหรับ 2 เมนูง่ายๆ ซึ่งสามารถนำไปปรับสูตรใช้กันได้ เพราะเมนูเครื่องดื่ม ไม่จำเป็นต้องมีสูตรที่ตายตัว หากแต่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าน้ำองุ่น นั้นไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย แต่ยังให้ประโยชน์อีกมากมาย หวังว่าบทความนี้จะถูกใจใครหลายคน โดยเฉพาะคนรักการรับประทานองุ่นเป็นชีวิตจิตใจ

Categories
น้ำ

น้ำกระเจี๊ยบ

น้ำกระเจี๊ยบน้ำสมุนไพรโบราณ คู่ตำนานไทย

น้ำกระเจี๊ยบ

น้ำกระเจี๊ยบ เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหาย คลายร้อน ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญน้ำกระเจี๊ยบ ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินดี วิตามินบี6 และวิตามินบี12 รวมทั้ง แคลเซียม และแมกนีเซียม ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และด้วยเหตุนี้เองกระเจี๊ยบเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่เป็นที่นิยมไม่แพ้น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำกระเจี๊ยบเครื่องดื่มสมุนไพรไทยที่หาดื่มง่าย มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว พร้อมด้วยคุณประโยชน์จัดเต็ม

วิธีทำ น้ำกระเจี๊ยบ สูตร น้ำกระเจี๊ยบลดความดัน มหัศจรรย์สมุนไพรไทย

น้ำกระเจี๊ยบ

กระเจี๊ยบเป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่สามารถนำมาแมทส์กับสมุนไพรตัวอื่นได้อย่างน่าทาน ไม่ว่าจะเป็นเมนูน้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน น้ำกระเจี๊ยบใบเตยหอม น้ำกระเจี๊ยบมะนาว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น เครื่องดื่มสมุนไพรสำหรับคนรักสุขภาพทั้งสิ้น และเมนูที่เราจะหยิบยกมาวันนี้ ก็คือ น้ำกระเจี๊ยบมะนาวและสูตรน้ำกระเจี๊ยบลดความดัน  พร้อมเสริมทัพด้วยเทคนิคและกรรมวิธีในการต้มกระเจี๊ยบดี ๆ นำมาฝาก แม้คุณไม่เคยทำมาก่อนก็สามารถทำดื่มได้อย่างมืออาชีพ

วิธีต้มน้ำกระเจี๊ยบ

สิ่งที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  1. ดอกกระเจี๊ยบแดง 150 กรัม
  2. น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
  3. เกลือผง 1/2 ช้อนชา
  4. น้ำสะอาด 4 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

  1. นำกระเจี๊ยบแดงไปล้างให้สะอาด โดยไม่ต้องเอากลีบออก
  2. ใส่น้ำลงในหม้อต้ม และนำกระเจี๊ยบที่ล้างสะอาดแล้วต้มลงไปในหม้อ ตั้งไฟกลาง รอจนเดือด
  3. หรี่ไฟให้เบาลง จากนั้นต้มอีก 15-20นาที เพื่อได้สีน้ำกระเจี๊ยบที่สวยงาม น่าทาน
  4. นำน้ำกระเจี๊ยบมากรอง เอากากและดอกกระเจี๊ยบออก กรองเอาแต่น้ำ
  5. เติมเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ แล้วคนจนส่วนผสมเครื่องปรุงเข้าด้วยกัน 6.พร้อมเสิร์ฟ เติมน้ำแข็งได้ตามใจชอบ

วิธีทำ น้ำกระเจี๊ยบมะนาว สดชื่น ชุ่มคอ

อีกเมนู น้ำกระเจี๊ยบ ที่อยากแนะนำคือ น้ำกระเจี๊ยบมะนาวที่เป็นคู่หูสมุนไพรไทยให้คุณประโยชน์คูณสอง จากทั้งน้ำมะนาวและผลกระเจี๊ยบ เมนูสุดครีเอทเครื่องดื่มสมุนไพร ที่คิดสูตรมาเข้ากันอย่างลงตัวดื่มแล้วสดชื่นถึงใจ ช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหาย ได้เป็นอย่างดี รับรองเลยว่าสดชื่นถึงใจ วิธีทำก็แสนจะง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไปดูกันเลย

สิ่งที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  1. น้ำมะนาวสด 5-6ลูก ตามชอบ
  2. น้ำตาล ¾ ถ้วยตวง
  3. น้ำกระเจี๊ยบ 2 ลิตร
  4. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

ขั้นตอนการทำ

  1. นำน้ำกระเจี๊ยบที่ผ่านการต้มแล้ว มาตั้งไฟกลาง ประมาณ 15-20นาที จนน้ำกระเจี๊ยบเดือด
  2. นำมาพักไว้ให้น้ำกระเจี๊ยบได้ที่แล้วจึงเติมเครื่องปรุงลงไป
  3. จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วยกออกจากเตา
  4. พร้อมเสิร์ฟ เติมน้ำแข็งตามใจชอบ

กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณ สุดว้าว อ่านแล้วต้องหาปลูก!

  1. บำรุงเลือด
  2. ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
  3. ลดความดันโลหิต
  4. ลดไขมันในเลือด
  5. ดับกระหาย แก้ร้อนใน

สรรพคุณน้ำกระเจี๊ยบ เครื่องดื่มสมุนไพรชั้นดี ที่ต้องหาดื่ม!

  1. ช่วยดับกระหาย คลายร้อน
  2. ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
  3. บรรเทาอาการไอ
  4. ป้องกันโรคโลหิตจาง
  5. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย

          กระเจี๊ยบแดง ถือเป็นพืชสมุนไพรใกล้ตัวที่หาทานได้ง่าย สามารถกินแบบสดก็ได้หรือจะนำมาคั้นเป็นน้ำก็มีคุณค่าทางสารอาหารไม่ต่างกัน แต่อย่าใส่น้ำตาลจนหวานฉ่ำระวังจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี นอกจากนี้ น้ำกระเจี๊ยบยังถือเป็นสมุนไพรที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งรูปร่าง กลิ่น และสี โดยเฉพาะอย่างยิ่งรสชาติที่มีความหวานอมเปรี้ยวแบบไม่เหมือนใคร แถม ประโยชน์ของน้ำกระเจี๊ยบ ก็มีมากมายไม่แพ้สมุนไพรตัวอื่น หลาย ๆ คนที่ลดน้ำหนักแต่อยากดื่มน้ำกระเจี๊ยบ จึงมักมีข้อสงสัยว่า น้ำกระเจี๊ยบกี่แคล ต่อหนึ่งแก้ว คำตอบคือ น้ำกระเจี๊ยบ 1 แก้วให้พลังงานถึง 120 แคลอรี่ ทางที่ดีให้เลือกทำเองและใส่น้ำตาลน้อย ๆ จะเป็นผลดีต่อสุขภาพมากกว่านะคะ แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอด้วยนะ

Categories
น้ำ

น้ำเต้าหู้

น้ำเต้าหู้อีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะกับคนทานมังสวิรัติ

น้ำเต้าหู้

หากให้นึกถึง นมถั่วเหลือง ยอดนิยม ที่เหล่าคนรักสุขภาพ มักจะชอบดื่มกันบ่อยที่สุด เชื่อว่า น้ำเต้าหู้ จะต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่ใคร ๆ ก็พอจะนึกออกกันเป็นอันดับแรก ๆ เพราะนี่คือหนึ่งในเครื่องดื่มประเภทของ นมถั่วเหลือง ที่มักจะมีคนชอบนำมาทานคู่กับมื้อเช้า ค่อนข้างบ่อยที่สุด และยังสามารถนำมาดื่มร่วมกับธัญพืชชนิดอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น สาคู, ลูกเดือย, ข้าวบาร์เลย์ หรือ ถั่วแดง อีกทั้งยังมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก แก่คนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ หรือคนทานมังสวิรัติ

น้ำเต้าหู้

น้ำเต้าหู้ แหล่งโปรตีนชั้นดี ที่ไม่ควรมองข้าม

โดยปกติแล้ว ถั่วเหลือง เป็น อาหารโปรตีนสูง ชั้นดี สำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพราะว่าภายใน ถั่วเหลือง อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ที่มีความใกล้เคียงกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าบริโภค ถั่วเหลือง ในปริมาณที่สูงพอ ร่างกายของเรา ก็จะได้รับโปรตีนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายได้ ซึ่งนมถั่วเหลืองที่มักจะมีคนนิยมนำมาทานเพื่อเสริมโปรตีนแทนเนื้อสัตว์มากที่สุด นั่นก็คือ น้ำเต้าหู้ นั่นเอง

และโดยทั่วไปแล้ว ถั่วเหลือง ยังนิยมนำมาทำเป็น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพราะคุณสมบัติสารอาหารที่สำคัญของถั่วเหลือง นั่นก็คือ คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, วิตามิน A, B, B1, B2, B6, B12, ไนอาซิน และ วิตามิน C, D, E อีกทั้งภายในเมล็ด ถั่วเหลือง ยังมี เลซิติน ที่สามารถช่วยบำรุงสมอง เพิ่มทักษะความจำ, ลดไขมัน และช่วยลดคอเลสเตอรอล ในร่างกายได้ดีอีกด้วย

10 คุณประโยชน์ ของการดื่มน้ำเต้าหู้

  1. ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
  2. ช่วยลดน้ำหนักได้
  3. เสริมสร้างหลอดเลือดที่แข็งแรง
  4. ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน และช่วยในการบำรุงกระดูก พร้อมเสริมสร้างวิตามินดี
  5. ช่วยให้สุขภาพจิตดี
  6. ดื่มแทนนมจากสัตว์
  7. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
  8. เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานของร่างกาย
  9. มีโปรตีน และมีเส้นใยที่ดีต่อการช่วยในระบบขับถ่าย
  10. มีส่วนช่วยบำรุงสมอง ทำให้ความจำดี เนื่องจากภายในน้ำเต้าหู้ มีสารเลซิติน ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง และระบบประสาท

สูตรน้ำเต้าหู้ โฮมเมด อร่อย ทำได้ง่าย

ส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีดังนี้

  1. ถั่วเหลืองกะเทาะเปลือก         500 กรัม
  2. น้ำสะอาด                        4 ลิตร
  3. น้ำตาลทราย                     ตามชอบ
  4. เกลือป่น                          ½ ช้อนชา

วิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรเข้มข้น

  1. นำถั่วเหลืองมาล้างให้สะอาด โดยเลือกเมล็ดเสียและสิ่งแปลกปลอมออก
  2. นำถั่วเหลืองมาแช่น้ำอย่างน้อย 5 ชั่วโมง ไม่ควรเกิน 10 ชั่วโมง
  3. เมื่อแช่เสร็จให้ล้างอีกครั้ง และพักสะเด็ดน้ำไว้
  4. เทน้ำและถั่วเหลืองลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดจนหมด
  5. นำน้ำถั่วเหลืองที่ปั่นมากรองผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ
  6. จะได้น้ำเต้าหู้ ให้นำมาตั้งหม้อและต้มจนมีฟอง หมั่นคนเรื่อย ๆ
  7. เติมเกลือและน้ำตาลทรายได้ตามใจชอบ แค่นี้ก็จะได้ น้ำเต้าหู้ สูตรเข้มข้นพร้อมเสิร์ฟแล้วล่ะ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานมังสวิรัติ และยังต้องการเสริมโปรตีนเพื่อสุขภาพของร่างกาย ขอแนะนำให้คุณดื่ม น้ำเต้าหู้เพื่อรับประโยชน์ทางโภชนาการในการเสริมโปรตีนที่ดีที่สุดอีกทั้งยังมี วิธีทำน้ำเต้าหู้ แสนง่ายดาย ที่ใครก็ลองทำได้ เพราะฉะนั้น อย่าลืมลองนำสูตรการทำเหล่านี้ ไปปรับใช้กับวิถีการรับประทานอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดของคุณ เพราะสุขภาพที่ดี เราสร้างเองได้

Categories
น้ำ

น้ำฝรั่ง

น้ำฝรั่ง เครื่องดื่มน้ำผลไม้ เพื่อสุขภาพ

น้ำฝรั่ง

ทุกวันนี้ เชื่อว่าเทรนด์ของการดูแลสุขภาพ ยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์เราทุกคน ยังคงให้ความสนใจอยู่เสมอ ถ้าหากยังมีคนที่อยากดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง ให้แลดูแข็งแรง สดใสอยู่เป็นประจำ และคงไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหม หากคนรักสุขภาพอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ต่างคิดที่อยากจะสรรหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไว้ดื่มยามที่ต้องการ ซึ่งหากใครในที่นี้ ยังไม่รู้ใจตนเองว่าอยากจะดื่มอะไร บทความวันนี้ เราขอแนะนำให้ลองดื่ม น้ำฝรั่ง อีกหนึ่งเครื่องดื่มผลไม้เพื่อสุขภาพ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คุณคิด

น้ำฝรั่ง

อยากดูแลสุขภาพแบบง่าย ๆ เริ่มต้นได้ที่ น้ำฝรั่ง

หากว่ากันด้วยเรื่องของผลไม้ในบ้านเรา ที่มักจะหาทานได้ตามท้องตลาดทั่วไปเกือบทั้งปี เชื่อว่า ฝรั่ง หรือในภาษาภาคใต้ที่มักชอบเรียกกันอีกชื่อว่า ชมพู่ มักจะเป็นผลไม้ที่มีให้ทานได้ค่อนข้างบ่อย เพราะถึงแม้ว่า ฝรั่ง จะเป็นผลไม้ที่ชอบออกผลดกที่สุด ในช่วงฤดูฝน หรือฤดูหนาว แต่ก็ยังคงเป็น ผลไม้ ที่ยังคงหาซื้อได้ไม่ยาก เกือบตลอดทั้งปี อีกทั้ง ประโยชน์ของฝรั่ง ก็นับว่ามีความคุ้มค่าต่อการทาน เพื่อสุขภาพร่างกายเหลือเกิน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูประโยชน์มากมายของฝรั่ง ได้ดังนี้

สรรพคุณน้ำฝรั่ง มีอะไรบ้าง

  1. สามารถทานเพื่อช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
  2. มีประโยชน์ในการบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง
  3. ช่วยป้องกัน หรือลดความเสี่ยงของการเกิด โรคมะเร็ง
  4. เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วน เพื่อลดปริมาณน้ำตาลให้น้อยลง
  5. สามารถนำไปทำเป็นเครื่องดื่มผลไม้เพื่อสุขภาพ ดังเช่น น้ำฝรั่งที่ได้ประโยชน์เช่นเดิม แต่ทานง่ายกว่า และมีวิธีทำที่ง่ายมาก ๆ

ขั้นตอนง่าย ๆ กับการเปลี่ยน ฝรั่ง ให้กลายเป็น เครื่องดื่มผลไม้เพื่อสุขภาพ

อย่างที่เกริ่นไว้ว่า ฝรั่ง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการอยากดูแลสุขภาพ และยังมีขั้นตอนการทำที่ง่ายมาก ๆ ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า วิธีทำน้ำฝรั่ง จะสามารถเริ่มต้นทำได้อย่างไรบ้าง

เตรียมวัตถุดิบดังนี้

  1. เตรียม ฝรั่ง สดๆ ลูกใหญ่ๆ ประมาณ 1 / 2 ลูก
  2. น้ำเปล่า ประมาณ 300 มิลลิลิตร
  3. น้ำตาลทราย ประมาณ 100 กรัม
  4. เกลือ ประมาณ 1 / 2 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ มีดังนี้

  1. เริ่มทำการต้ม โดยการผสมกันระหว่าง น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ตามปริมาณข้างต้น
  2. นำ ฝรั่ง มาทำการเช็ดเนื้อเช็ดตัว ล้างน้ำให้สะอาด เฉาะเนื้อเป็นชิ้น ๆ หรือไม่ก็ทำการผ่าครึ่ง และที่สำคัญ ควรแยกเมล็ดออกด้วย
  3. จากนั้นก็นำเนื้อ ฝรั่ง กับ น้ำเปล่า มาปั่นให้ละเอียด พร้อมกับกรองด้วยผ้าขาวบาง ๆ
  4. เมื่อปั่นได้ที่แล้ว ก็สามารถนำน้ำฝรั่ง กับ น้ำเชื่อม พร้อมกับ เกลือ มาผสมคนให้เข้ากัน แล้วพร้อมเสิร์ฟคู่กับน้ำแข็งได้ทันที

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถเปลี่ยน ฝรั่ง ให้กลายเป็น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ได้แล้วแบบง่าย ๆ

และนี่ก็คือขั้นตอนของการทำ น้ำฝรั่ง ที่ดูเหมือนไม่ยากเลยใช่ไหม เพราะสุขภาพของคนเรา เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะฉะนั้น เราควรหันมา ดูแลสุขภาพ ด้วยการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้ไปด้วยกันเถอะ

Categories
น้ำ

น้ำตะไคร้

น้ำตะไคร้เครื่องดื่มสมุนไพรไทยในตำนาน ทำกินง่าย ได้ประโยชน์เพียบ

น้ำตะไคร้

       ตะไคร้ เป็นพืชสมุนไพรไทยล้มลุกที่มีคุณประโยชน์ครบครัน ทั้งช่วยขับลม บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นท้อง แก้ร้อนใน ทั้งยังช่วยขับเสมหะและบรรเทาอาการหวัดได้อีกด้วย เพราะในตะไคร้ อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน เส้นใย วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และคุณค่าทางอาหารมากที่สุด คือ วิตามินเอ คุณสมบัติครบครันประโยชน์มากมีขนาดนี้ ก็ไม่แปลกใจที่คนไทยจึงนิยมนำเจ้าตะไคร้ใบเรียวยาวมาเป็นเครื่องปรุงในเมนูอาหารโดยเฉพาะ น้ำตะไคร้ ที่ช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี

วิธีทำเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำตะไคร้

สำหรับช่วงนี้ ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ยิ่งเริ่มเข้าช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวอาจเป็นไข้หวัดเอาได้ง่าย และยิ่งสถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดยิ่งต้องมองหา เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไว้ดูแลตัวเองกันหน่อย น้ำตะไคร้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำ ทำง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แถมได้สุขภาพดี จิบวันละนิดให้ชื่นใจ แก้กษัย ดับกระหายได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องไปพึ่งยาที่ไหน บอกเลยว่าสมุนไพรไทยนี่สุดมหัศจรรย์ ให้ธรรมชาติช่วยบำบัดคุณกันนะคะ ไปดูวิธีทำ สูตรน้ำตะไคร้ กันเลย

ส่วนผสม มีดังนี้

  1. ตะไคร้ 3 ต้น
  2. น้ำตาล 100 กรัม
  3. น้ำเปล่า 1 ลิตร

ขั้นตอนการทำ มีดังนี้

  1. นำตะไคร้ไปล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาทุบ
  2. นำหม้อต้มมาใส่น้ำเปล่าแล้วใส่ตะไคร้ตามลงไป ต้มจนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี
  3. นำน้ำไปกรอกเอากากออก จากนั้นนำมาต้มในหม้อต้มอีกครั้งพร้อมใส่น้ำตาลตามลงไปตามชอบ ใช้ไฟกลาง คนจนน้ำตาลละลาย
  4. ยกหม้อออกจากเตา ตั้งพักไว้ให้เย็น พร้อมดื่ม

วิธีทำน้ำตะไคร้ใบเตย เพิ่มกลิ่นหอมชื่นใจ แบบง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน

วิธีทำน้ำตะไคร้ใบเตย

ส่วนผสม มีดังนี้

  1. ตะไคร้ 3 ต้น
  2. ใบเตยหั่นเป็นชิ้น 5 ใบ
  3. น้ำเปล่า 1 ลิตร
  4. น้ำตาล 100 กรัม
  5. น้ำมะนาว ใส่ตามชอบ
  6. น้ำแข็ง ใส่ตามชอบ

ขั้นตอนการทำ มีดังนี้

  1. นำตะไคร้ที่เตรียมไว้ไปล้างน้ำจนสะอาด
  2. หลังจากนั้นนำตะไคร้มาทุบ
  3. นำหม้อมาใส่น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ 1 ลิตร แล้วจึงนำใบเตยที่หั่นไว้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และตะไคร้ที่ทุบแล้วใส่ลงไปในหม้อ
  4. ต้มทิ้งไว้จนน้ำเดือด และเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบเตย
  5. นำน้ำตะไคร้ใบเตยที่ต้มเสร็จจนเดือดไปกรองเพื่อเอากากออก
  6. เทน้ำตะไคร้ใบเตยใส่ในหม้ออีกครั้ง พร้อมทั้งใส่น้ำตาลตามไป ใช้ไฟกลาง เสร็จแล้วคนจนเข้ากันให้น้ำตาลละลายจึงยกออกจากเตามาพักไว้จนอยู่ในอุณหภูมิห้อง จากนั้นก็ตักน้ำแข็งใส่แก้วตามชอบ พร้อมดื่ม เพียงเท่านี้ก็จะได้ น้ำตะไคร้ใบเตย หอม ๆ ไว้ทานยามว่างกันแล้วนะคะ

น้ำตะไคร้ สรรพคุณ และ คุณประโยชน์ 10 ประการ ดังนี้

  1. ช่วยปรับสมดุลการทำงานของระบบปัสสาวะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  2. ช่วยบรรเทาอาการหวัด
  3. แก้อาการกษัย
  4. ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง
  5. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง พร้อมทั้งบำรุงสมอง
  6. มีฤทธิ์ในการช่วยให้นอนหลับสบาย
  7. ช่วยเสริมสร้างระบบไหลเวียนเลือดให้ไหลเวียนได้ดี
  8. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  9. ช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ
  10. ช่วยให้เจริญอาหาร

           ตะไคร้ ถือเป็นพืชสมุนไพรในตำนานที่อยู่ในวิถีชีวิตคนไทยมาอย่างช้านาน ด้วยกลิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งมีสรรพคุณและประโยชน์นานับประการ ไม่ว่าจะนำไปปรุงอาหาร ทำเครื่องดื่ม อย่างเช่น เมนูน้ำตะไคร้ ใบเตย ที่ทำกินง่าย ทำได้ที่บ้าน ประโยชน์ของน้ำตะไคร้ ก็มีมากมาย  ทั้งเป็นยารักษาโรค หรือในปัจจุบันก็เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมเครื่องหอมไทย ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปต่าง ๆ สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย

Categories
น้ำ

น้ำขิง

น้ำขิงเครื่องดื่มสมุนไพรต้านโควิด 19

น้ำขิง

น้ำขิง นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรชั้นดี ที่สามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย พร้อมยังช่วยให้สุขภาพภายใน สามารถเจริญอาหารได้มากยิ่งขึ้น เพราะภายใน ขิง ยังอุดมไปด้วย สารอาหาร ที่มีคุณค่าต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม หรือว่า วิตามินเอ และด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายนี้เอง จึงมักจะมีผู้คนชอบนำ ขิง มาประกอบร่วมกับการทำอาหาร หรือทานคู่กับอาหาร โดยเฉพาะกับน้ำขิง ที่กลายมาเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรยอดนิยม เพราะด้วยรสชาติอันแสนเผ็ดร้อน และประโยชน์ที่สามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย จึงจัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มสมุนไพร ที่สามารถช่วยต้านโควิด 19 ได้ด้วย เช่นกัน

น้ำขิง น้ำผึ่ง

วิธีการทำเครื่องดื่ม น้ำขิง แบบง่าย ๆ

ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 เช่นนี้ หลาย ๆ คน คงกำลังมองหาตัวช่วยใน การดูแลสุขภาพ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่เราหยิบมาแนะนำกันในวันนี้ นั่นก็คือ ขิง ที่เสมือนเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรชั้นดี ที่น่าสนใจ และยังสามารถนำมาทำเป็นเมนู เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่คนรักสุขภาพ ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด และวิธีในการทำน้ำขิง แบบง่าย ๆ จะสามารถเริ่มต้นทำได้อย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว เราไปศึกษากันเลยดีกว่า

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  1. ขิงแก่                    1 กิโลกรัม
  2. น้ำตาลทรายแดง       1 ถ้วยตวง
  3. น้ำสะอาด               3 ลิตร

ขั้นตอนการทำ มีดังนี้

  1. นำขิงสดมาปอกเปลือกออก จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด 1 – 2 น้ำ แล้วทุบให้พอแหลก
  2. ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อขนาดพอเหมาะ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ขิงที่ทุบแล้วลงไป ต้มประมาณ 15 – 20 นาที เคี่ยวให้น้ำขิงออกมา
  3. เสร็จแล้วกรองเอากากออก เติมน้ำตาล ชิมรสตามต้องการ
  4. ตักน้ำขิงใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ สามารถดื่มได้ทันที
  5. สำหรับใครที่อยากดื่มแบบเย็น ๆ แค่เติมน้ำแข็งลงไปสักหน่อย ก็จะได้น้ำขิงที่อร่อยและสดชื่นแล้วล่ะ

วิธีการทำเครื่องดื่มน้ำขิง สูตรมะตูม

สำหรับเครื่องดื่ม น้ำขิงสูตรมะตูม นับได้ว่าเป็น เครื่องดื่มสมุนไพร อีกสูตรหนึ่ง ที่สามารถช่วยในเรื่องของระบบการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้ดี และยังช่วยลดอาการหวัดได้ดีอีกด้วย นั่นจึงทำให้เครื่องดื่มน้ำขิง สูตรมะตูม จึงมีความพิเศษที่มากขึ้น เพราะมีส่วนผสมจาก มะตูม อีกหนึ่งสมุนไพรชั้นดี ที่สามารถนำมาผสมเข้ากันได้อย่างลงตัว

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม มีดังนี้

  1. ขิงแก่                              2 ถ้วยตวง
  2. มะตูมแห้ง                         10 แว่น
  3. น้ำเปล่า                           2 ลิตร
  4. น้ำตาลทรายไม่ขัดสี               (ตามชอบ)

ขั้นตอนการทำ มีดังนี้

  1. นำขิงมาปอกเปลือกและล้างทำความสะอาด แล้วฝานเป็นแว่น
  2. นำมะตูมแห้งมาล้างทำความสะอาด
  3. ต้มน้ำให้เดือดจากนั้นใส่ขิงและมะตูมลงไป
  4. ต้มต่อจนน้ำเดือดอีกครั้ง ปรับไปเป็นไฟกลางค่อนอ่อน ต้มต่ออีก 20 นาที และใส่น้ำตาลได้ตามชอบ
  5. ปิดเตายกหม้อลงมาคลายร้อน และกรองเอาแต่น้ำ พร้อมดื่ม

น้ำขิง สรรพคุณ ประโยชน์ 10 ข้อ

  1. ขิงเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอด
  2. มีส่วนช่วยในการป้องกัน ต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  3. ช่วยลดความอ้วน ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้ แล้วปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ
  4. ช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการไอ บรรเทาหวัดขับเสมหะ
  5. ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะและไมเกรน
  6. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย
  7. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต
  8. ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
  9. ช่วยรักษาอาการปวดในช่วงก่อนหรือหลังประจำเดือน
  10. ใช้แก้อาการคอแห้ง เจ็บคอ

          ขิง นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรชั้นดี ที่อยู่คู่กับครัวคนไทยมาอย่างช้านาน และยังเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่แทบทุก ๆ บ้านจะต้องมี หรือหากไม่มี ก็สามารถที่จะหาได้ไม่ยากนัก และเมนู น้ำขิง ที่เราได้หยิบมานำเสนอกัน ในวันนี้ ก็ยังเป็นเมนูง่าย ๆ ทำง่าย และดื่มง่าย แต่ ประโยชน์ของน้ำขิง ก็นับว่ามีอยู่อย่างมากเลยทีเดียว และยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด 19 แบบนี้ ก็ต้องขอแนะนำให้ควรหามาดื่มเป็นประจำทุก ๆ วัน เลยยิ่งดี เพราะจะสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้

Categories
ขนมหวาน

วุ้นแมงลัก

วุ้นแมงลัก เมนูขนมง่าย ๆ ทำได้เองแถมราคาประหยัด

วุ้นแมงลัก

เราคือหนึ่งในคนที่ต้องมีขนมหวานติดบ้าน โดยเฉพาะพวกขนมที่แช่เย็นไว้ได้ พอเอาออกมาทานตอนอากาศร้อน ๆ หรือตอนหัวร้อน ๆ มันช่วยเยียวยาให้ชุ่มฉ่ำแล้วเย็นลงได้ มีใครเป็นเหมือนเราบ้างเอ่ย ? เอาเป็นว่าที่กล่าวมาก็คือ เรานั้นสูญเสียเงินไปกับการตุนขนมในตู้เย็นไปหลายบาท คราวนี้เราเลยคิดว่าจะมาชวนทุกคนทำเมนูขนมง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่ต้องเยอะ ราคาประหยัด ทำเก็บไว้ในตู้เย็นไว้ทานเล่น เมนูนั้นก็คือ วุ้นแมงลัก นั่นเอง เชื่อว่าทุกคนนึกภาพออกมาอย่างแน่นอน ภาพวุ้นแมงลักน้ำแดงในถ้วยพลาสติกเล็ก ๆ นั่นแหละใช่เลยที่เราจะชวนทุกคนมาทำ แอบบอกก่อนว่านี่ถือเป็นวิธีทำวุ้นแมงลักที่แบบสะดวกง่าย เหมาะกับมือใหม่อยากทำขนมทานเองมาก ๆ  

                วันนี้สูตรวุ้นแมงลักที่เราหามาลองทำจะเป็นส่วนผสมและวิธีทำวุ้นน้ำแดงเฮลบลูบอยใส่เม็ดแมงลัก เป็นวิธีทำวุ้นง่าย ๆ ไม่ต้องยุ่งยากมีไม่กี่ขั้นตอนแค่ต้มเม็ดแมงลัก ทำตัววุ้นน้ำแดง ตักใส่พิมพ์ แช่เย็นวุ้นข้ามคืนเพียงเท่านี้ก็มีวุ้นแมงลัก อร่อย ๆ หวานเย็นชื่นใจไว้รับประทานแล้ว มาดูส่วนผสมและวิธีทำวุ้นแมงลักกันเลยดีกว่า

ส่วนผสมวุ้นน้ำแดงแมงลัก

  1. น้ำเปล่า                          1,000 มิลลิลิตร
  2. น้ำตาลทราย                  80 กรัม (สามารถเพิ่มลดได้ตามระดับความหวานที่ชอบ)
  3. น้ำหวานเฮลบลูบอย      8 ช้อนโต๊ะ
  4. ผงวุ้น                               1 ช้อนโต๊ะ
  5. เม็ดแมงลัก                     1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำเปล่า                          800 มิลลิลิตร สำหรับแช่เม็ดแมงลัก
  7. ถาด แม่พิมพ์ซิลิโคน หรือจะเป็นถ้วยพลาสติกไว้ใส่วุ้น

วิธีทำวุ้นแมงลัก

ขั้นตอนที่ 1 แช่เม็ดแมงลักแห้งลงในน้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ​ 15-20 นาที สังเกตให้เม็ดแมงลักมันพองตัว

ขั้นตอนที่ 2 ระหว่างที่รอเม็ดแมงลักพองตัว เตรียมวุ้นรอ เริ่มจากเทน้ำเปล่าลงหม้อแล้วนำไปตั้งไฟ พอน้ำเริ่มจะเดือดให้ค่อย ๆ โปรยผงวุ้นลงหม้อ หรือทำให้น้ำวนตลอดป้องกันไม่ให้ผงวุ้นจับเป็นก้อน เมื่อผงวุ้นกระจายทั่วปิดไฟ ยกลงจากเตารอให้ผงวุ้นอิ่มตัวซักพัก สังเกตว่าผงวุ้นจะยังไม่ได้ละลายนะ

ขั้นตอนที่ 3 ระหว่างรอผงวุ้นอิ่มตัว เม็ดแมงลักให้นำเม็ดแมงลักที่พองตัวแล้ว ตักมาแต่เนื้อ ๆ หยอดลงพิมพ์ตามปริมาณที่ต้องการ

ขั้นตอนที่ 4 นำน้ำวุ้นไปตั้งไฟกลาง ๆ ต่อ  จนกว่าผงวุ้นละลายหมด แล้วจึงเติมน้ำตาลทราย พยายามคนตลอดเวลา แล้วจึงใส่น้ำแดงลงไป ขั้นตอนนี้สามารถตักชิมรสชาติเพื่อปรับความหวานตามที่ต้องการได้ เมื่อได้ความหวานที่พอใจให้ปิดไฟ พักให้เย็นลงซักครู่ แล้วจึงเทใส่พิมพ์ และสุดท้ายรอเวลาให้วุ้นเซตตัวประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนน้ำไปแช่ตู้เย็นให้ได้วุ้นที่กรอบเย็นชื่นใจ

                หวังว่าใครที่กำลังมองหาเมนูขนมง่าย  ๆ ทำไว้ทานเล่นที่บ้านจะลองทำเจ้าวุ้นแมงลักสูตรนี้ตามกันดูนะ หรือว่าจริง ๆ แล้วหากใครอยากแอดวานซ์หรือเพิ่มกลิ่นและรสชาติ จะลองปรับจากแค่วุ้นแมงลักน้ำแดง เป็นวุ้นแมงลักน้ำเขียว วุ้นแมงลักสีฟ้า วุ้นแมงลักสีชมพู โดยคราวนี้อาจจะไม่ได้ใช้เป็นสีจากน้ำหวานเฮลบลูบอย แต่ลองแต่งด้วยสีผสมอาหารอื่น ๆ แทน หรือจะลองเพิ่มเลเยอร์ของวุ้นแมงลักจากเลเยอร์เดียวเป็นสองเลเยอร์ด้วยการเทวุ้นแมงลักไปครึ่งพิมพ์ก่อน แล้วราดด้วยวุ้นกะทิตามข้างบนอีกชั้น กลายเป็นวุ้นแมงลักกะทิ ก็อร่อยไปอีกแบบ