Categories
อาหารคาว

ปลาราดพริกสามรส

ปลาราดพริกสามรส

ปลาราดพริกสามรส เป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเปรี้ยว, หวาน, และเผ็ด อร่อยและอบอุ่น ซึ่งสามารถนำไปทำประโยชน์ได้หลากหลายวิธี เช่น การทำเป็นเครื่องปรุงสำหรับปลา หรือ ทำเป็นน้ำจิ้มสำหรับไก่ วันนี้ เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับปลาราดพริกสามรส ว่ามีวิธีทำอย่างไรบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร

ความสำคัญของ ปลาราดพริกสามรส

การทำปลาราดพริกสามรสไม่ยาก แต่ต้องใช้วิธีการที่ถูกต้อง และต้องมีวัตถุดิบที่คุณภาพดี และส่วนผสมที่สามารถทำให้รสชาติของปลาเด่นชัด

วัตถุดิบที่ต้องการ

1.ปลา

ปลาที่ใช้ในการทำ ปลา ราดพริกสามรส ควรเป็นปลาที่สดและไม่มีกลิ่น ปลาสด จะทำให้รสชาติของปลาราดพริกสามรสเด่นชัดและอร่อย

2. พริกสามรส

พริกสามรส เป็นส่วนผสมที่สำคัญในการทำปลาราดพริกสามรส ซึ่งทำให้มีรสเผ็ด เปรี้ยว และหวาน ในตัวปลาราดพริก

3. วัตถุดิบอื่นๆ

นอกจากปลาและพริกสามรสแล้ว ยังมีวัตถุดิบอื่นๆที่ต้องการในการทำปลาราดพริกสามรส เช่น น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะนาว

วิธีการทำปลาราดพริกสามรส

การทำ ปลาทอด ราดพริกสามรส มีขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตาม อย่างที่แนะนำให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ การเตรียมวัตถุดิบ การทำส่วนผสม และการปรุงรส เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด

1. การเตรียมวัตถุดิบ

การเตรียมวัตถุดิบเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำปลาราดพริกสามรส และเป็นขั้นตอนที่แรกที่ต้องทำ

3. การทำส่วนผสม

การทำส่วนผสมของปลาราดพริกสามรส ต้องทำด้วยความระมัดระวังและความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี

3. การทำน้ำจิ้ม

การทำน้ำจิ้มสำหรับปลาราดพริกสามรส นั้น ต้องใช้วัตถุดิบที่ดีและใช้วิธีการที่ถูกต้อง ในการผสมวัตถุดิบ

4. การปรุงรส

การปรุงรสสำหรับปลาราดพริกสามรส เป็นขั้นตอนที่สุดท้ายที่ต้องทำ และเป็นขั้นตอนที่ทำให้รสชาติของปลาราดพริกสามรสเด่นชัดและเป็นเอกลักษณ์

การเสิร์ฟปลาราดพริกสามรส

การเสิร์ฟ ปลาทอด ราดพริกสามรส มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการเสิร์ฟที่ดี จะทำให้คนที่กินรู้สึกอิ่มใจและต้องการที่จะกินอีก

ปลาราดพริกสามรส กับ น้ำจิ้มไก่

น้ำจิ้มไก่ เป็นน้ำจิ้มที่ใช้กับปลาราดพริกสามรส ซึ่งทำให้รสชาติของปลาเด่นยิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการทำปลาราดพริกสามรส

ในการทำปลาราดพริกสามรส มีข้อควรระวังที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้ได้ปลาราดพริกสามรสที่อร่อยและสุขภาพดี

ประโยชน์ของการทำปลาราดพริกสามรสเอง

การทำปลาราดพริกสามรสเอง มีประโยชน์หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพ การอนุรักษ์และการพัฒนาทักษะการทำอาหาร

ปลาสามรสราดพริก อาหารประจำของเรา

ปลาราดพริก สามรส เป็นอาหารที่สามารถทำได้ทุกวัน และเหมาะกับการทานเป็น อาหารจานเดียว

ข้อสรุป

ในสุดท้าย ปลา ราด พริก 3 รส เป็นอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าทางสุขภาพ และสามารถทำเองได้ง่ายดาย

คำถามที่พบบ่อย

  1. ปลาราดพริกสามรสสามารถเก็บไว้นานเท่าไหร่?
  2. พริกสามรส คืออะไร?
  3. วัตถุดิบที่ใช้ในการทำน้ำจิ้มไก่คืออะไรบ้าง?
  4. ความแตกต่างระหว่างปลาราดพริกและปลาราดพริกสามรสคืออะไร?
  5. สามารถใช้ ปลา ชนิดอื่น ๆ ทำปลาราดพริกสามรสได้หรือไม่?
Categories
อาหารคาว

หมึกผัดไข่เค็ม เมนูสุดฟินแห่งความนัวที่กินพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ

ใครที่เป็นสายชอบปลาหมึก ต้องเมนูนี้เลย หมึกผัดไข่เค็ม เมนูอาหารไทย ที่ใคร ๆ หลายคน เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวทะเล หรือไปทานข้าวร้านอาหาร ต้องสั่งทุกครั้ง เพราะเป็นเมนูยอดฮิตที่ขึ้นชื่อของ อาหารไทย เลยก็ว่าได้ เพราะรสชาตินั้นจะมีความนัวของไข่เค็ม ที่กินกับข้าวสวยแล้วมีความพอดีกันอย่างสุด ๆ แต่ก็มีหลายคนที่ชอบทานเมนูนี้ แต่อยากทานที่บ้าน เพราะด้วยสถานการณ์โรคระบาดไวรัส โควิด 19 จึงไม่อยากออกไปไหน วันนี้เราจะมาแกะสูตรหมึกผัดไข่เค็ม ที่สามารถทำเองที่บ้านได้ โดยไม่ต้องไปซื้อที่ร้านอาหาร

ส่วนผสม หมึกผัดไข่เค็ม

หมึกผัดไข่เค็มเมนูอาหารไทยที่อาจจะมีส่วนผสมของ เมนูหมึกผัดไข่เค็ม เยอะหน่อยแต่รับรองได้ว่า เตรียมส่วนผสมแล้วคุ้มกับความอร่อยอย่างแน่นอน

  1. ไข่แดงเค็ม                       4 ลูก
  2. ไข่เค็ม                           1 ฟอง
  3. ซอยหอยนางรม                 1 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกเผา                          1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำเปล่า                          1/3 ถ้วย
  6. กระเทียมสับ                    1 ช้อนโต๊ะ
  7. ซีอิ้วขาว                         1 ช้อนโต๊ะ
  8. ปลาหมึกกล้วย                  350 กรัม
  9. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน                 ตามใจชอบ
  10. ผักชีหั่น                          ตามใจชอบ
  11. พริกชี้ฟ้า                         ตามใจชอบ
  12. น้ำมันพืชเอาไว้ผัด
  13. น้ำปลา                          1 ช้อนโต๊ะ
  14. น้ำตาล                           1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำหมึกผัดไข่เค็ม

หมึกผัดไข่เค็ม เมนูสุดโปรดของคนหลายคน วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ มาแกะ วิธีทำหมึกผัดไข่เค็ม กัน แต่คิดว่าในเกือบทุกที่ สูตรหมึกผัดไข่เค็ม น่าจะเหมือนกันหมด

  1. ตั้งกระทะ เทน้ำมันลงไป ใช้ไฟร้อนกลาง ๆ หลังจากนั้นให้เอากระเทียมสับลงไปผัดให้มีความเหลือง และใส่ปลาหมึกลงไป ( ไม่ควรผัดนานเพราะปลาหมึกจะสุกเกิน) ผัดให้ปลาหมึกมีความขาว
  2. ใส่ไข่แดงเค็มลงไป บดให้ละเอียด ก่อนผัดให้ใส่ไข่เค็มหั่นชิ้นลงแล้วค่อยผัดกับปลาหมึกให้เข้ากัน
  3. ใส่พริกเผา ซอยหอยนางรม ซีอิ้วขาว น้ำตาล น้ำปลา ที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำเปล่า
  4. ใส่ผักที่เตรียมไว้ใส่ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และพริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากัน แล้วตักขึ้นจัดใส่จาน โรยตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้น ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลย

บทส่งท้ายกับเมนูสุดฮิต

เป็นไงบ้างคะเพื่อน ๆ อาจจะเตรียม ส่วนผสมหมึกผัดไข่เค็ม เยอะหน่อย แต่ วิธีทำหมึกผัดไข่เค็ม นั้นมีไม่กี่ขั้นตอน สามารถทำได้อย่างไว หากใครลอง เมนูอาหารไทย เมนูนี้รับรองว่าจะติดปากคุณไปอีกนานเลยแหละ สามารถทำกินเองได้อย่างสบาย ๆ เลยแหละเพื่อน ๆ

Categories
อาหารคาว

ยำเส้นแก้ว รสชาติแซ่บ ๆ อร่อยเผ็ดเด็ดแน่นอน สูตรฟรีทำง่าย ทำขายได้กำไรดีมากแน่นอน

ยำเส้นแก้ว

ยำเส้นแก้ว เป็นอาหารรสชาติจัดจ้านที่อร่อยมากค่ะ รสชาติเผ็ดเค็มหวานลงตัวมาก แค่มองก็น้ำลายสอแล้วจ้า และที่เด็ดมากกว่าความอร่อยคือแคลอรีต่ำมาก เพราะเส้นบุกนั้นถือเป็นอาหารแคลต่ำที่ฮิตมากในหมู่คนรักสุขภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย ถ้าใครอยากหายำแซ่บ ๆ ทานบอกเลยจานนี้แนะนำสุด ๆ ค่ะ

ยำเส้นแก้วมีส่วนผสมและวัตถุดิบอะไรบ้าง

ยำเส้นแก้วเป็นอาหารที่ปรุงง่ายมากค่า ที่สำคัญคืออาหารจานนี้ใช้ส่วนผสมน้อยและหาง่ายมาก ๆ ยําเส้นแก้ว สูตรที่เรานำมาฝากนั้นมีวัตถุดิบตามนี้เลยค่า

ส่วนผสมของ ยําเส้นแก้ว คือ

  1. เส้นแก้ว 1/2 กิโลกรัม
  2. หมูยอ 200 กรัม
  3. หมูสับ 1/2 กิโลกรัม
  4. ปลาหมึก 4 ตัว
  5. กุ้ง 16 ตัว
  6. พริก 25 เม็ด
  7. มะนาว 4 ลูก
  8. มะเขือเทศ 4 ลูก
  9. ขึ้นฉ่าย 1ต้น
  10. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  11. ผงชูรส 1 ช้อนชา
  12. น้ำกระเทียมดอง 5 ช้อนโต๊ะ
ยำเส้นแก้ว

วิธี ยําเส้นแก้ว ให้อร่อยแซ่บอย่าบอกใคร

          ยําเส้นแก้ว ง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเองใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาดูกันเลยว่าเมนูนี้มีวิธีการทำอย่างไรให้อร่อยนะคะ

  1. ตั้งหม้อเทน้ำเปล่าลงไปรอให้น้ำเดือด
  2. ลวกหมูยอให้สุกดี จากนั้นพักไว้
  3. จากนั้นตั้งหม้อเทน้ำเปล่าลงไปรอให้เดือด แล้วลวกหมูสับให้สุกดี
  4. ตั้งหม้อเทน้ำเปล่าลงไปรอให้น้ำเดือด ใส่หมึกและกุ้งลงไปลวกให้สุก พักไว้ก่อน
  5. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำกระเทียมดอง ผงชูรส คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  6. ใส่หมูสับลงไปบีบมะนาวตามเล็กน้อย ตามด้วยมะเขือเทศ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
  7. ใส่หมูยอ กุ้ง หมึก เส้นแก้ว คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
  8. เมื่อเคล้าจนได้ที่แล้วโรยคื่นฉ่ายลงไป คลุกเคล้าต่อได้เลยค่ะ
  9. พร้อมเสิร์ฟ

ยำเส้นแก้ว มีประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

          เส้นแก้วนั้นเป็นอาหารที่แคลต่ำมาก อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพ เป็นอาหารที่เหมาะจะทำให้ที่บ้านทานมาก ๆ ยําเส้นแก้ว คลีน ยิ่งดีมากขึ้นไปอีก เพื่อน ๆ สามารถปรับสูตรโดยการเปลี่ยนเครื่องปรุงเป็นแบบคลีนจะดีต่อสุขภาพมากขึ้นค่า แต่ถ้าเพื่อน ๆ ชอบความแซ่บความนัว แนะนำให้ลองทำตามสูตรด้านบนได้เลยจ้า ส่วนสารอาหารที่ร่างกายจะได้รับนั้นมีเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และได้รับไขมันต่ำกำลังดี ส่วนให้มีการดูดซึมวิตามินที่ดีมากขึ้นด้วย วิตามินและเกลือแร่จากมะเขือเทศช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมากขึ้นด้วย เรียกได้ว่าหุ่นดีพร้อมผิวสวยไปด้วยกันเลยค่า ส่วนคำถามที่ว่า ยําเส้นแก้ว กี่แคล คำตอบคือ 100 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง ได้ทั้งประโยชน์และได้ลดไขมันไปด้วยเลิศมากค่า

Categories
อาหารคาว

หมูโสร่ง สูตรคุณป้าเมนูเด็ดมัดใจคุณพี่ว่าที่สามีของแม่หญิงการะเกด

หมูโสร่ง

หมูโสร่ง เชื่อว่าหลายคนนั้นไม่รู้จักเมนูนี้มาก่อนอย่างแน่นอน เป็นเมนูอาหารว่างของไทย ในสมัยก่อน แต่พึ่งมารู้จักเมนูนี้ในช่วงละครบุพเพสันนิวาสออกอากาศ ทำให้เมนูอย่างหมูโสร่งนั้นดังเปรี้ยงปร้างภายในข้ามคืนเลยว่าได้ เป็นเมนูยอดฮิตช่วงนั้นเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะไปไหนก็เจอเมนูนี้แน่นอน และทำให้ใครหลายคนนั้นแกะสูตรออกมาทำตาม และนำไปขายกอบโกยรายได้ในช่วงนั้นเลย จะมีส่วนประกอบและวิธีทำอะไรบ้างไปชมกันเลย เผื่อนำไปทำเองกินเล่นยามว่าง

ส่วนผสมเมนูมัดใจ หมูโสร่ง

หากใครยังไม่เคยทำเมนูอย่างหมูโสร่ง วันนี้เรามาดูกันเพราะเราจะทำตามในละครทุกอย่างเรียกได้ว่าเอาหมูโสร่งสูตรอาหารว่าง ของคุณป้ามาไว้ในยุคนี้เลย ว่า ส่วนผสมหมูโสร่ง และ วิธีทำหมูโสร่ง นั้นมีกี่ขั้นตอน ต้องเตรียมของอย่างไรบ้าง

  1. หมูบด                   500 กรัม
  2. รากผักชี                       5 – 6 ต้น
  3. กระเทียม                     2 กำมือ
  4. พริกไทยเม็ด            10 – 15 เม็ด
  5. เกลือ                            1 ปลายนิ้วหยิบ
  6. น้ำปลา                         1 ช้อนโต๊ะ
  7. ไข่ไก่                             3 ฟอง
  8. เส้นหมี่ซั่วแบบจืด                    
  9. น้ำมันเอาไว้ทอด
  10. น้ำจิ้มไก่

วิธีทำเมนูอาหารว่างสุดปังอย่างหมูโสร่ง

เมนูหมูโสร่งนั้นอาจจะมีวิธีทำหลายขั้นตอน แต่รับรองได้ว่าหากทำตามออกมาแล้วต้องอร่อยอย่างแน่นอน แถมยังสามารถทำขายเป็นรายได้เสริมได้อีกแล้ว อย่ารอช้าไปดู วิธีทำหมูโสร่ง กันเลยดีกว่า

  1. สับหมูบดที่เตรียมไว้ให้ละเอียด
  2. นำพริกไทยเม็ด รากผักชี กระเทียม ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปแล้วตำให้ละเอียด หลังจากนั้นใส่เกลือลงไปปลายนิ้วหยิบ
  3. นำหมูสับละเอียดมาคลุกกับเครื่องปรุงที่ตำจนละเอียด และไข่ไก่ที่เตรียมไว้ แล้วนวดให้เข้ากัน
  4. นำเส้นหมี่ซั่วไปแช่น้ำ ให้ชุ่มแล้วนำเส้นหมี่ขึ้นมา พักไว้ในถาดที่เตรียมไว้
  5. นำหมูบดมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ แล้วนำเส้นหมี่ซั่ว 4-5 เส้น มาพันรอบหมูเป็นลูกตะกร้อ
  6. ตั้งน้ำมัน ไฟกลาง รอน้ำมันเดือด
  7. ให้เอาหมูที่พันเส้นแล้วลงไปทอด ให้สีออกเหลืองน้ำตาลแล้วเร่งไฟขึ้นมานิดหน่อยก่อนเอาขึ้น เพื่อไม่ให้อมน้ำมัน หลังจากนั้นนำขึ้นมาเพื่อสะเด็ดน้ำมัน
  8. นำก้อนหมูมาจัดใส่จานพร้อมกับน้ำพริก ตกแต่งจานด้วยพริกและผักนิดหน่อย เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยกับหมูโสร่งเมนูอาหารว่าง

บทสรุปของเมนูมัดใจคุณพี่ของออเจ้า

ลองชิมกันหรือยังคะว่า ทำหมูโสร่ง ตามแล้วอร่อยแบบในละครหรือไม่ หมูโสร่งนั้นมีหลายสูตร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่คุณมีอยู่ที่ครัวได้

Categories
อาหารคาว

ส้มตำข้าวโพด อาหารเพื่อสุขภาพ รสชาติจัดจ้าน ประโยชน์จัดเต็ม

ส้มตำข้าวโพด

ส้มตำข้าวโพด  เป็นหนึ่งในส้มตำประเภทหนึ่ง เป็นเมนูอาหารไทยสุดแซ่บที่ใครหลายๆคนรู้จักกัน เป็นที่นิยม ด้วยความแตกต่างที่ไม่เหมือนส้มตำชนิดอื่น เพราะวัตถุดิบหลักคือข้าวโพดนั่นเอง ทำให้เนื้อสัมผัสการกินส้มตำข้าวโพดจะทำให้รู้สึกถึงความนุ่มนึบของข้าวโพด เป็นเอกลักษณ์ความอร่อยที่ไม่เหมือนเมนูอื่น จึงทำให้เมนูส้มตำข้าวโพดเป็นที่นิยม 

ส้มตำข้าวโพด  อาหารยอดนิยมที่คนไทย ใคร ๆ ก็ต้องไม่พลาด

ส้มตำข้าวโพดเมนูนี้แม้จะเป็นอาหารอร่อยรสชาติแซ่บ แต่ด้วยยุคสมัยนี้ที่ผู้คนต่างให้ความใส่ใจเรื่องอาหารการกินกับสุขภาพนั้น หลาย ๆ คนคงจะสงสัยกันว่าอาหารอร่อย ๆ อย่างส้มตำข้าวโพดจะให้แคลอรี่มากน้อยขนาดไหน กินแล้วจะอ้วนมั้ย บอกได้เลยว่าหากผู้ที่อยากคุมแคลอรี่การทานอาหารในแต่ละวัน แต่ก็ยังอยากมีความสุขในการได้กินอาหารที่ชอบอย่าง ส้มตำข้าวโพดก็ไม่ต้องกังวลไปเลย เพราะ ส้มตำข้าวโพด แคลอรี่ ต่อ 1 จาน เพียง 90 กิโลแคลอรี่ เรียกได้ว่าอร่อยอิ่มท้องแถมยังไม่ต้องกลัวอ้วน ครบเครื่องแบบนี้ไม่กินไม่ได้แล้ว

ส้มตำข้าวโพด

ส้มตำข้าวโพดสูตรเด็ดเผ็ดแซ่บที่ใช้วัตถุดิบง่าย ๆ

วัตถุดิบที่ต้องใช้จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1.ข้าวโพด       1 ฝัก

            2. พริกขี้หนู     10 เม็ด(หรือตามความชอบเผ็ดมากน้อย)

            3. มะเขือเทศ  2-3 ลูก

            4. ถั่วฝั่กยาว    2ฝัก

            5. มะนาว        1 ลูก

            6. แครอท        1 หัว       

          7. กระเทียม    4-5 กลีบ

          8. น้ำตาลปี๊ป   ครึ่งช้อนโต๊ะ

          9. น้ำปลา        2 ช้อนโต๊ะ

            10. กุ้งแห้ง     2 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบเพียงเท่านี้ หาซื้อได้ง่าย ๆ ก็สามารถทำส้มตำข้าวโพดแสนอร่อยกินเองได้แล้ว แต่ทั้งนี้จากส้มตำข้าวโพด สูตร นี้เป็นเพียงแนวทางการปรุงรสเบื้องต้นเท่านั้น หากท่านใดทำตามก็สามารถปรุงรสเพิ่มลดได้ตามความชอบของตัวเองกันเลย

ส้มตำข้าวโพด

ส้มตำข้าวโพดเมนูสุดแซ่บ มือใหม่ก็ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน

 ส้มตำข้าวโพดเมนูนี้แม้ชาวที่ชอบกินอาหารแซ่บทั้งหลาย จะเป็นมือใหม่ด้านการทำอาหาร แต่วิธีทำส้มตำข้าวโพด ไม่ยากเลยอีกทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำก็มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น เหล่าชาวคอนโดก็สามารถทำกินเองได้  อยากรู้ว่า วิธีทำส้มตำข้าวโพด จะมีอะไรบ้าง ไปดูรายละเอียดกันเลย

ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ

          -นำข้าวโพดมาต้มจนสุก (หรือใครที่ไม่สะดวกก็สามารถหาซื้อข้าวโพดต้มสุกแล้วตามร้านค้าตลาดได้เลย) จากนั้นฝานข้าวโพดด้วยมีดให้เป็นชิ้น

            -นำพริกขี้หนูและกระเทียมมาโขลกให้แหลก

          -นำแครอทมาขูดหรือสับเป็นเส้น แล้วไปแช่น้ำแข็งไว้เพื่อให้เส้นกรอบอร่อย

            -หั่นถั่วฝักยาวให้เป็นท่อนพอดี หั่นมะเขือเทศครึ่งซีก

ขั้นตอนการประกอบอาหาร

            -นำพริกขี้หนูกับกระเทียมละเอียดแล้วมาตำ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ป น้ำปลา มะนาว ให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊ปละลาย ชิมรสชาติแล้วปรุงเพิ่มตามความชอบได้เลย

             -นำกุ้งแห้ง ข้าวโพด ถั่วฝักยาว แครอท และมะเขือเทศมาโขลกกับน้ำส้มตำที่ปรุงไว้

            – เมื่อคลุกเคล้าจนเข้ากันแล้ว นำใส่จานเป็นอันสำเร็จ

ส้มตำข้าวโพดแม้จะเป็นอาหารที่ทั้งอร่อยและแซ่บ แต่ประโยชน์ที่เราจะได้จากข้าวโพดก็มีมากเช่นกัน ไม่ว่าจะอุดมด้วยสารอาหารมากมาย ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น มีสารต้านมะเร็ง เป็นต้น  ประโยชน์มากมายขนาดนี้ เมนูนี้จึงเป็น ส้มตำข้าวโพดเมนูเพื่อสุขภาพ ที่ดีต่อร่างกาย  เพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่เคยกิน ก็ลองไปทำตามกันได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอน

Categories
อาหารคาว

ยำไข่ดาว อาหารรสเด็ดเผ็ดแซ่บยอดนิยมของคนไทย

ยำไข่ดาว หนึ่งในเมนูยำรสเด็ด ยำคืออาหารที่นำผัก เครื่องปรุงรสต่าง ๆ และเนื้อสัตว์หรือเส้นต่าง ๆ มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ซึ่งอาหารประเภทยำ มีรสชาติเด่น 3 รสคือ เปรี้ยว เค็ม หวาน ด้วยรสชาติที่จัดจ้านจึงเป็นเมนูที่ถูกใจคนไทย

ยำไข่ดาว

ยำไข่ดาว อร่อยแซ่บแบบฉบับยำ ประโยชน์มากมายจากไข่ไก่

ยำไข่ดาวหลายคนอาจเบื่อการกินไข่ดาวธรรมดา ๆ เราจึงมี ไอเดียเมนูไข่ดาว ที่ทั้งอร่อยแซ่บทำง่าย ทำกินเองได้ นั่นก็คือ ยำไข่ดาว นั่นเอง  คนที่ชอบกินอาหารแซ่บ ๆ แต่ก็ยังอยากได้ประโยชน์เพื่อสุขภาพ ยำไข่ดาวตอบโจทย์มากๆ ความอร่อยของยำไข่ดาวที่มีรสชาติแซ่บและยังให้ความรู้สึกถึงความกรอบฟูของไข่ดาวอีกด้วย ได้กินแล้วรับประกันว่าฟินแน่นอน

ยำไข่ดาวใช้ส่วนผสมในการทำเมนูให้ได้รสชาติถึงเครื่องถึงใจเป็นยำไข่ดาวสูตรแซ่บ อร่อยได้  วัตถุดิบที่ใช้สามารถหาซื้อได้ตามตลาด หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป

วัตถุดิบในการทำ

         1.ไข่ไก่                     3 ฟอง

2.พริกขี้หนู               3  เม็ด

            3.น้ำตาล                 2-3 ช้อนชา

            4.มะนาว                     3 ช้อนโต๊ะ

            5.น้ำปลา                 2 ช้อนโต๊ะ

            6.หัวหอมใหญ่          ½ หัว

            7.ขึ้นฉ่าย                 1-2 ต้น

            8.มะเขือเทศ             1  ลูก

            9.ต้นหอมหั่นท่อน      2ต้น

ทั้งนี้หากใครชอบเผ็ด ๆ มาก ก็สามารถใส่พริกเพิ่มไปให้เผ็ดแซ่บไฟลุกได้เลย หรือหากใครที่อยากให้มีเนื้อสัตว์ ไม่ได้คุมน้ำหนัก ก็สามมารถใส่กุ้ง หรือ หมูสับ ได้เลยอร่อยไม่แพ้กัน

ยำไข่ดาว

ยำไข่ดาวกับวิธีรังสรรค์เมนูไข่ให้มีรสชาติจัดจ้านโดนใจ  

ยำไข่ดาวนั้นมี วิธีทำยำไข่ดาว ให้ออกมาหน้าตาหน้ากิน ทำได้ไม่ยาก หากพร้อมแล้วไปดูรายละเอียดขั้นตอนการทำกันได้เลย

ขั้นตอนการทำยำไข่ดาวให้อร่อยแซ่บ

          1.ทอดไข่ดาวโดยนำไข่ไปทอดกระทะด้วยไฟกลางจนได้ไข่ดาวกรอบฟูแล้วนำไปพักไว้ หั่นให้ได้ขนาดชิ้นพอดี

          2.ทำน้ำยำด้วยการ นำน้ำปลา น้ำตาล มะนาว และพริกที่บดละเอียดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน

          3.และสุดท้าย นำหอมใหญ่ มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และไข่ดาวที่หั่นเป๋นชิ้นแล้ว นำทุกอย่างไปคลุกกับน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็เป็นอันเสร็จพร้อมทาน

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น ก็จะได้ยำไข่ดาวจานเด็ดเผ็ดแซ่บ ง่ายมาก ๆ เลย ทุกคนทำตามกันได้แน่นอน

ยำไข่ดาว

ยำไข่ดาวอาหารแซ่บ ๆ ไม่อ้วน สาวกชอบกินยำต้องไม่พลาด นอกจากยำไข่ดาวแล้ว เพื่อนๆก็สามารถปรับประยุกต์เติมเนื้อสัตว์เข้าไป อย่างยำหมูสับไข่ดาว หรือยำไข่ดาววุ้นเส้น ก็ย่อมได้ ประโยชน์มากมายจากไข่ ทั้งอร่อยและเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ หากเพื่อน ๆ ที่อ่านจนจบแล้ว ก็ลองไปทำตามกันได้เลย

สนับสนุนโดย https://pgslot-89.com/ pg slot ค่ายเกมส์สล็อตออนไลน์สุดฮิต เล่นง่าย จ่ายจริง https://pgslot-89.com/

Categories
อาหารคาว

เกี๊ยวอกไก่ เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ประโยชน์มาก รสชาติดี

เกี๊ยวอกไก่

 เกี๊ยวอกไก่  เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ที่เปลี่ยนจากเกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวหมู มาใช้อกไก่ เหมาะกับสายสุขภาพ เพราะอกไก่นั้น ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะโปรตีนสูงแต่พลังงานต่ำ มีสารช่วยสร้างกล้ามเนื้อ  และช่วยคุมน้ำหนัก ประโยชน์มากมายขนาดนี้ สุขภาพดี ๆ ก็มีได้ไม่ยากเลย

เกี๊ยวอกไก่ อาหารคลีน รสชาติอร่อย ทำกินเองง่าย ๆ สายคุมน้ำหนักพลาดไม่ได้เกี๊ยวอกไก่

หนึ่งใน เมนูอาหารจากอกไก่  ซึ่งหลายๆคนที่เป็นสายออกกำลังกายหรือควบคุมน้ำหนักก็จะนิยมกินอกไก่ต้มกัน  ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำเกี๊ยวอกไก่ ให้ทุกคนที่อาจจะเบื่อเมนูอกไก่เดิมๆ ลองมาทำเกี๊ยวอกไก่กิน อร่อยอิ่มท้อง ไม่อ้วนแน่นอน

เกี๊ยวอกไก่

เกี๊ยวอกไก่สูตรเด็ดสร้างรายได้  ทำกินเองก็ได้ ทำขายก็ดี

เกี๊ยวอกไก่กับ สูตรเกี๊ยวอกไก่อาหารคลีน  ที่ให้รสชาติอร่อย ไม่ทำลายสุขภาพ  เมนูถูกใจสายกินคลีน กินได้ไม่เบื่อ

วัตถุดิบทำเกี๊ยวอกไก่ (สำหรับ 1 ท่าน)

          1.อกไก่                    120 กรัม

            2.แป้งเกี๊ยวสำเร็จรูป   10-15แผ่น

            3.รากผักชี                   2 ต้น            

            4.แครอท                 2 กรัม

            5.กระเทียม              3 กลีบ

            6.ต้นหอมซอย           2-3 ต้น

          7. พริกไทยป่น           ½ ช้อนชา

            8.ซีอิ๊วขาว                2 ช้อนชา

9.ซอสหอยนางรม      1 ช้อนชา

สูตรข้างต้น สามารถปรุงรสชาติเพิ่มตามความชอบส่วนบุคคลได้เลย หรือสามารถเพิ่มผักชนิดอื่นเป็นไส้เกี๊ยวได้

เกี๊ยวอกไก่  วิธีทำเกี๊ยวอกไก่ นั้นง่ายมาก ๆ ไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะ ใช้แค่เพียงหม้อ ก็สามารถทำกินเองได้เลย หรือชาวเด็กหอ/ชาวคอนโดใช้ไมโครเวฟก็สามารถทำได้เช่นกัน วิธีทำเกี๊ยวอกไก่ นั้นเวลาเพียงไม่นานก็พร้อมทานแล้ว วิธีทำจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนหลักคือ ขั้นเตรียมวัตถุดิบ กับ ขั้นตอนประกอบอาหาร จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง มีรายละเอียดดังนี้

ขั้นเตรียมวัตถุดิบ

          1.นำรากผักชีและกระเทียมมาบดละเอียด

            2.นำแครอทมาสับให้เล็ก

            3.นำอกไก่มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วสับให้ละเอียด

ขั้นตอนประกอบอาหาร

         1.นำวัตถุดิบที่เตรียมคือ รากผักชีและกระเทียมที่บดละเอียดจนเข้ากันแล้ว นำมาผสมกับเนื้ออกไก่ที่เราสับละเอียด และแครอทสับที่เตรียมไว้  ขยำให้เข้ากัน

          2.ปรุงรสอกไก่สับของเราด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย  พริกไทยป่น  ขยำให้รสชาติเครื่องปรุงทั่วถึง

          3.นำแป้งเกี๊ยวมา นำไส้อกไก่วางตรงกลางแล้วห่อจับจีบตามถนัด    

4.นำเกี๊ยวอกไก่ไปต้มหรือนึ่ง หรือเข้าไมโครเวฟจนสุก ตกแต่งเกี๊ยวด้วยการโรยต้นหอมซอย

เกี๊ยวอกไก่ ขั้นตอนวิธีทำ เรียกได้ว่าง่ายกว่าที่คิด วัตถุดิบก็ใช้ไม่เยอะ อีกทั้งยังใช้เวลาทำไม่นานก็ได้ทานเลย สะดวกสุด ๆ 

เกี๊ยวอกไก่

เกี๊ยวอกไก่นอกจากจะทำเกี๊ยวอกไก่ต้ม/นึ่ง แล้ว สามารถปรับเปลี่ยนเมนูไปทานคู่กับอย่างอื่นได้อีกด้วย เช่น ทำเป็นบะหมี่เกี๊ยวอกไก่  เกี๊ยวน้ำอกไก่ เกี๊ยวอกไก่ในซุปผัก  เกี๊ยวอกไก่ทอด เป็นต้น เกี๊ยวอกไก่เมนูอาหารคลีน นี้ หากเพื่อนๆคนไหนที่เบื่อเกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวหมู แต่ยังอยากทานเกี๊ยวแล้วดีต่อสุขภาพ ก็มาลองทำเกี๊ยวอกไก่กันได้เลย

Categories
อาหารคาว

กะเพราเต้าหู้ อาหารจานเดียวทำเองง่าย ๆ โภชนาการสูง

กะเพราเต้าหู้

กะเพราเต้าหู้ อีกหนึ่งเมนูอาหารคลีนที่เป็นการปรับเปลี่ยนอาหารจานเดียวอย่างผัดกะเพรา ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูกันตายของใครหลาย ๆ คนซึ่งถือเป็น เมนูอาหารตามสั่งยอดฮิต ที่เมื่อไปร้านอาหารตามสั่งแล้วนึกไม่ออกว่าจะทานอะไรเมนูกะเพราเป็นสิ่งแรกที่มักจะสั่งกัน  หลาย ๆ คนอาจจะเบื่อกับการกินกะเพราไก่ หมูสับ หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ แล้ว ดังนั้นเราจะพาทุกคนไปทำกะเพราเต้าหู้ทานกันจะมีสูตรเคล็ดลับอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

กะเพราเต้าหู้  มาเปลี่ยนกะเพราเดิม ๆ ให้ไม่ซ้ำจำเจเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ต้องกลัวอ้วน

กะเพราเต้าหู้เป็นอีกเมนูหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารมังสวิรัติ เนื่องจากกะเพราเต้าหู้นั้นให้โปรตีนจากเต้าหู้แทนการรับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ  หากอยากรับประทานเมนูนี้ ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องโภชนาการเลย เนื่องจากเต้าหู้นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ให้โปรตีนมากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึง 2 เท่า  เรียกได้ว่านอกจากอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย เมนูอาหารมังสวิรัติมื้อเที่ยงนี้ หากใครเบื่อเมนูที่ทานเป็นประจำแล้วก็มาลองทำกะเพราเต้าหู้ทานกันได้

กะเพราเต้าหู้

กะเพราเต้าหู้กับสูตรการทำกะเพราด้วยวัตถุดิบง่าย ๆ ทำเองได้ทันมื้อเที่ยงนี้ วัตถุดิบที่มีติดครัวทุกบ้าน จะต้องใช้อะไรบ้างเราไปดูรายละเอียดดังต่อไปนี้กันเลย

วัตถุดิบที่ต้องใช้ (สำหรับ 2 จาน)

1.เต้าหู้ไข่หรือเต้าหู้ขาว (เลือกตามความชอบ)        

2.ใบกะเพรา          ½ ถ้วย

3.พริกขี้หนู            3 ช้อนโต๊ะ

4.กระเทียมโขลก     3 ช้อนโต๊ะ

5.ซอสหอยนางรม    1 ช้อนโต๊ะ

6.น้ำตาลทราย        2 ช้อนโต๊ะ

7.ซีอิ๊วขาว             1 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำเปล่า              ¼ ถ้วย

9.แป้งทอดกรอบ

สำหรับปริมาณวัตถุดิบขึ้นอยู่กับปริมาณจำนวณที่ท่านต้องการทำสามารถคำนวณแปรผันตามปริมาณความมากน้อยได้เลย หรือสามารถปรุงเพิ่มได้ตามรสชาติความชอบของตนได้เลย

กะเพราเต้าหู้ทำเองได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

 กะเพราเต้าหู้วิธีการ ทำนั้นจะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ

         -นำกระเทียมและพริกมาโขลก/บดละเอียด

         -ล้างและเด็ดใบกะเพราเตรียมให้เรียบร้อย

         -นำเต้าหู้ไข่/เต้าหู้ขาว มาหั่นให้ได้ชิ้นขนาดที่ต้องการ แล้วนำไปคลุกแป้งทอดกรอบ

ขั้นตอนการประกอบอาหาร

         -นำเต้าหู้ที่คลุกแป้งทอดกรอบไว้ไปทอดในกระทะโดยใช้ไฟกลาง ทอดจนได้กรอบพอดีแล้วนำตั้งพักไว้

         -นำพริกและกระเทียมลงไปผัดกับซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ใบกะเพรา และน้ำเปล่าปรุงรสตามความพอใจให้หอม

          -นำเต้าหู้ทอดกรอบที่พักไว้มาผัดกับน้ำซอสคลุกให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ

เท่านี้ก็จะได้กะเพราเต้าหู้แสนอร่อยที่มีความกรอบๆ และนุ่มของเต้าหู้ อร่อยแถมยังดีต่อสุขภาพต้องไปลองทำรับประทานกันแล้ว

กะเพราเต้าหู้

กะเพราเต้าหู้นั้นไม่ได้เพียงแต่เป็นอาหารเฉพาะให้ผู้ที่ทานมังสวิรัติหรืออาหารคลีนเท่านั้น แต่ท่านอื่นๆที่อยากทานทั้งเต้าหู้และเนื้อสัตว์ก็สามารถทำเป็นกะเพราเต้าหู้หมูสับ ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย เพื่อนๆอ่านจบกันแล้วหากยังไม่เคยทานกะเพราเต้าหู้ ก็ลองไปทำกันได้เลย รับรองสูตรนี้ประทับใจแน่นอน

Categories
อาหารคาว

เมนูอร่อย กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา รสชาติถูกใจ ใครทานก็ชอบ

กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา

มาเข้าครัวกันค่ะ วันนี้จะพามาทำเมนูเพื่อสุขภาพกับเมนูผักสำหรับคนรักสุขภาพมาทางนี้เลยค่ะ อร่อยจนต้องบอกต่อ เป็นเมนูที่ร้านอาหาร และร้านอาหารตามสั่งต้องมีเมนูนี้เลยทีเดียว นั้นก็คือเมนู กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา ทุกคนสามารถเพิ่มเนื้อสัตว์ไปในเมนูนี้ได้นะคะเพิ่มความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการ เช่น หมูกรอบ กุ้ง จะฟินมากเวอร์ อาหารจานนี้บอกเลยว่าต้นทุนต่ำ ทำไม่ยาก วัตถุดิบไม่เยอะ พอพูดแล้วก็อยากลองทำเลยใช่ไหมละคะ วันนี้เราจะพาไปทำเมนูกระหล่ำปลีผัดน้ำปลาใส่หมูกรอบ เราได้ร่วมรวมวิธีการผัดและวิธีการทำหมูกรอบมาให้แล้วรับรองสูตรนี้บอกเลยไม่ยาก ทำตามได้ง่ายๆ

วัตถุดิบและขั้นตอนการทำ กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา

มาดูวิธีการทำหมูกรอบกันค่ะ แล้วเราจะพาทุกคนไปดูขั้นตอนวิธีการผัดกระหล่ำปลีผัดน้ำปลา

วัตถุดิบการทำหมูกรอบ (แบบทอดไร้น้ำมัน)

1.หมูสามชั้น 1 ชิ้น

2.เกลือ

3.น้ำเปล่า

4.หม้อทอดแบบไร้น้ำมัน

ขั้นตอนการทำหมูกรอบ (แบบทอดไร้น้ำมัน)

1.นำหมูสามชั้นมาล้างน้ำสะอาด จากนั้นนำหม้อต้มมาใส่น้ำเปล่าและเกลือเปิดไฟต้มจนน้ำเดือด พอน้ำเดือดได้ที่แล้วให้นำหมูสามชั้นที่ล้างไว้ใส่ลงไปต้มแล้วปิดไฟหม้อ ต้ม15-20นาที จนหมูสุกได้ที่ เสร็จแล้วปิดแก๊สเปิดฝาหม้อทิ้งไว้

2.นำหมูสามารถออกจากหม้อต้มใส่กระชอน ให้น้ำแห้งและหายร้อน วางพักทิ้งไว้

3.เมื่อหมูสามชั้นแห้งแล้ว ให้นำหมูสามชั้นใส่ในหม้อทอดไร้น้ำมัน ตั้งเวลา20-30 นาที จากนั้นเปิดหม้อทอดแล้วผลิกฝั่งหมูสามชั้นแล้วปิด ทอดต่ออีก20-30นาที ขึ้นอยู่ที่ความร้อนของหม้อแต่ละขึ้น ทอดจนหมูสามชั้นเหลืองกรอบได้ที่

4.เสร็จแล้วนำหมูสามชั้นออกมาพักทิ้งไว้ให้เสด็จน้ำมัน พอหายร้อนแล้วให้นำหมูกรอบมาหั่นเป็นแว่นๆหนาบางตามชอบได้เลยค่ะ เพื่อเตรียมไว้ผัด

กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา

วัตถุดิบการทำกระหล่ำปลีผัดน้ำปลา

1.กระหล่ำปลี

2.หมูกรอบ

3.น้ำปลา

4.กระเทียม

5.น้ำมันพืช

ขั้นตอนการทำกระหล่ำปลีผัดน้ำปลา

1.นำกระหล่ำปลีมาล้างน้ำ จากนั้นหั่นเป็นแว่นๆ แล้วใส่น้ำเกลือแช่ทิ้งไว้สัก 5 นาที จากนั้นนำมาล้างน้ำสะอาดสัก1-2 รอบเพื่อล้างให้สะอาดอีกครั้ง

2.ปลอกกระเทียมแล้วปั่นไม่ต้องละเอียดมาก ใครไม่มีเครื่องปั่นสามารถสับเล็กๆได้เลยค่ะ

3.ตั้งไฟตั้งกระทะ เทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ตามด้วยใส่กระเทียม ผัดพอหอมกระเทียมเริ่มเหลืองใส่หมูกรอบลงไปผัด ตามด้วยกระหล่ำปลี เสร็จแล้วตามด้วยน้ำปลาลงไปและผงปรุงรส ผัดจนกระหล่ำปลีหดลงเล็กน้อย แล้วปิดไฟตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟค่ะ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูกระหล่ำปลีผัดน้ำปลาง่ายๆแถมอร่อยให้ได้ลิ้มรสกันแล้วค่ะ

บทสรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะกับเมนูกระหล่ำปลีผัดน้ำปลา ใครที่ชอบเข้าครัวหรือกำลังหาเมนูใหม่ๆเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารลองทำตามดูนะคะ สูตรหมูกรอบไร้น้ำมัน และสูตรการผัด ที่ไม่ยุ่งยากทำตามได้เลยนะคะ อร่อยแบบวัตถุดิบไม่เยอะและใช้เวลาไม่นาน

Categories
อาหารคาว

เมี่ยงคำ

เมี่ยงคำอาหารว่างทำทานเพลิน ๆ และทำไม่ยากอย่างที่คุณคิด

เมี่ยงคำ

เมี่ยงคำ จัดว่าเป็นอาหารไทยโบราณ และนิยมทำทานเป็นของว่าง หรืออาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งปัจจุบันเมี่ยงคำค่อนข้างที่จะหาซื้อได้ง่าย และแต่ละร้านก็มักจะมีสูตร หรือเคล็ดลับความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป เช่นบางร้านอาจจะใช้กลีบดอกบัว แทนใบชะพลู หรือบางร้านอาจจะทำขายเป็นคำ ๆ เพื่อความสะดวกในการรับประทาน แต่เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเมี่ยงคำที่ทุกร้านต้องมีเหมือนกันนั่นก็คือรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ในคำเดียว ทำให้เกิดความกลมกล่อมเมื่อทานเข้าไป

เมี่ยงคำ

จัดเตรียมส่วนผสม เมี่ยงคำ อร่อยได้ง่าย ๆ เพียงไม่วัตถุดิบไม่กี่ชนิด

สำหรับใครที่กำลังตามหา สูตรเมี่ยงคำ หรือสำหรับคนที่อยากทราบว่า เมี่ยงคํามีอะไรบ้าง วันนี้เราได้นำสูตรการทำน้ำเมี่ยงคำ และเครื่องเมี่ยงคำเพื่อให้ทุกคนที่อยากทาน เมี่ยงคำสด ไปลองทำทานกันค่ะ

ส่วนผสมน้ำเมี่ยงคำ

  1. ข่าสับละเอียด  1 ช้อนโต๊ะ  
  2. ตะไคร้หั่นฝอย  1 ช้อนโต๊ะ
  3. หอมแดงซอย  4 ช้อนโต๊ะ
  4. กะปิเผา 2 ช้อนชา     
  5. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย 
  6. น้ำปลา 1 ถ้วย
  7. กุ้งแห้งโขลกละเอียด ครึ่งถ้วยตวง
  8. มะพร้าวคั่ว ครึ่งถ้วยตวง
เมี่ยงคำ

เครื่องเมี่ยงคำ

  1. มะพร้าวคั่ว
  2. กุ้งแห้ง (ชนิดจืด)
  3. ถั่วลิสงคั่ว
  4. หอมแดงหั่นเต๋า
  5. ขิงหั่นเต๋า (ขิงเมี่ยงคำ ควรเป็นขิงอ่อน)
  6. มะนาวหั่นเต๋า
  7. พริกซอย
  8. ใบชะพลู, ใบทองหลาง, กลีบดอกบัว

วิธีทำน้ำเมี่ยงคำ ทำไม่ยาก แต่ต้องระวังไม่ให้ไฟแรงเกินไป

เมื่อเห็นส่วนผสมและเครื่องของเมี่ยงคำ หลายคนอาจจะสงสัยว่า เมี่ยงคํา ใช้ใบอะไร ซึ่งเราได้แนะนำไป 3 ชนิด ได้แก่ ใบชะพลู, ใบทองหลาง และกลีบดอกบัว ซึ่งเป็นที่นิยมในการกินเมี่ยง แต่ก็มีผัก หรือใบไม้ชนิดอื่น ๆ ที่สามารถนำมาทำเป็นเมี่ยงคำได้เช่นกัน

ต่อมาในส่วนของวิธีทำน้ำเมี่ยงคำ กันแล้วค่ะ ซึ่งน้ำเมี่ยงคำนั้นนับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของเมี่ยงคำที่จะทำให้เมี่ยงของคุณออกมารสชาติดี เหมือนกับ เมี่ยงคำเจ้าอร่อย เจ้าดังที่ทำขายกันเลยทีเดียว โดยการทำน้ำเมี่ยงคำนั้นมีข้อควรระวังคือการควบคุมไฟ เพื่อให้น้ำเมี่ยงคำของคุณนั้นไม่ไหม้

วิธีทำน้ำเมี่ยงคำ

  1. โขลกข่า ตะไคร้ และกะปิเผาให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นตั้งหม้อใช้ไฟกลาง ค่อนไปทางเบา เทน้ำปลาลงไปเคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บ
  2. คนไปเรื่อย ๆ เมื่อน้ำตาลละลายดีแล้วให้เติมเครื่องที่โขลกลงไป คนให้เหนียวได้ที่แล้วยกลง จากนั้นใส่มะพร้าวคั่ว และกุ้งแห้งลงไป นำไปตั้งไฟอ่อนคนให้เข้ากันแล้วยกลงเตรียมเสิร์ฟได้

          เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับสูตร เมี่ยงคำ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการทำเมี่ยงคำไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่หลาย ๆ คนคิดเลยใช่ไหมคะ ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่ต้องเตรียมเครื่องเคียงหลายชนิด จึงอาจจะทำให้หลายคนมองว่าเมนูนี้ซับซ้อน หรือยุ่งยากจนเกินไป แต่หากเตรียมเครื่องเคียงต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วก็นับว่าเมนูนี้เสร็จไปเกินกว่าครึ่งแล้วค่ะ