Categories
ขนมหวาน

สาคูเปียกข้าวโพด

สาคูเปียกข้าวโพด ขนมไทยทำง่ายทานง่ายสูตรหวานน้อย

สาคูเปียกข้าวโพด

ใครที่กำลังตามหาของหวานไทยไว้รับทานสลับกับคุกกี้เบเกอรี่ต่าง ๆ ใดๆ ช่วง WFH แบบนี้ ต้องเร่เข้ามาเลย เพราะวันนี้เราเอาหนึ่งสูตรขนมไทยที่ทำง่ายทานง่าย อย่างสาคูเปียกข้าวโพด มาชวนให้ทุกคนลองทำตามกันดู แอบกระซิบด้วยว่า สูตรที่เรานำมานี้เป็น สูตรสาคูเปียกข้าวโพดที่หอมหวานกะทิสดกันไปเลย ตามคอนเซปต์ของหวานไทย ๆ นี่ขาดกะทิไม่ได้ ลองมาดูสูตรสาคูเปียกข้าวโพดกัน


เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อน หากใครที่กังวลเรื่องการคุมน้ำหนักอยากลดของหวาน แล้วมีคำถามว่าสาคูเปียกข้าวโพดนี้ กี่แคล ต้องตอบเลยว่า ถ้าคำนวณตามสัดส่วนจากส่วนผสมในสูตรสาคูเปียกข้าวโพดที่นำมาฝากกันวันนี้ จะได้ แคลอรี่ แต่หากคุณอยากลองปรับแคลอรี่ให้ลดต่ำลง อาจปรับได้จากลดปริมาณน้ำตาล หรือปริมาณไขมันจากกะทิเปลี่ยนจากกะทิเป็นนมสดก็พอจะทำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนปรับสูตรใด ๆ ลองมาดูส่วนผสมและวิธีทำสาคูเปียกข้าวโพดกันก่อนดีกว่า


ส่วนผสมของ สาคูเปียกข้าวโพด


1. สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วยตวง
2. ข้าวโพดต้มฝานเอาแต่เนื้อ 1 ถ้วยตวง
3. เนื้อมะพร้าวอ่อนขูด 1 ถ้วยตวง
4. เกลือ 1 ช้อนชา
5. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
6. น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
7. กะทิ 1 ถ้วยตวง


วิธีทำสาคูเปียกข้าวโพด


ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากวิธีต้มสาคูโดยการนำสาคูเม็ดเล็กที่ตวงไว้ เทใส่กระชอน เพื่อร่อนนำเศษผงแป้งที่ติดมากับเม็ดออกไป แล้วจุ่มลงน้ำ นำขึ้นมาสะเด็ดไว้ ระหว่างที่เริ่มเตรียมสาคูให้เทน้ำเปล่าใส่หม้อไว้ พอสาคูสะเด็ดน้ำก็ใส่สาคูลงไป พยายามคนตลอดไม่ให้สาคูติดหม้อ ตรงนี้ต้องระวังดี ๆ เลยคนจนเม็ดสาคูมีลักษณธข้างนอกใสข้างในขาวเป็นอันใช้ได้ ทำการใส่ใส่น้ำตาลลงไป คนต่อไปเรื่อย ๆ อย่างใจเย็น จนน้ำตาลละลายหมด ปิดท้ายด้วยข้าวโพดตามลงไป เมื่อเม็ดสาคูใสเท่ากันทั่วทุกเม็ดแล้วก็ปิดไฟยกลงจากเตาเป็นอันได้สาคูเปียกข้าวโพดมาพักไว้


ขั้นตอนที่ 2 เตรียมส่วนของกะทิที่ใช้ทานคู่กัน โดยใส่กะทิลงในหม้อ จากนั้นเติมเกลือ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ คนต่อเรื่อย ๆ จนเกลือละลายหมดแล้วเห็นกะทิเริ่มเดือดเล็กน้อย ปิดไฟยกลงจากเตา


ขั้นตอนที่ 3 นำส่วนของสาคูเปียกข้าวโพดมาตักใส่ถ้วยรอไว้ แล้วราดด้วยน้ำกะทิลงไป ได้รสชาติหวานหอมมันเค็มกำลังพอดี


จบไปแล้วหนึ่งสูตรขนมไทยที่เราเอามาฝากกันทำเอาทุกคนอยากลองนำเจ้าสาคูเปียกข้าวโพดไปทำตามและทานเล่นที่บ้านกันเลยใช่ไหมเอ่ย แถมอีกนิด หากใครอยากจะเพิ่มความอร่อยไปอีกขั้นก็สามารถดัดแปลงเป็นสาคูเปียกข้าวโพดมะพร้าวอ่อน ทานคู่กันแล้วลงตัวสุด ๆ หรือจะทำเป็นสาคูเปียกรวมมิตรไม่ใส่แค่ข้าวโพด ใส่เผือก ใส่แห้ว ลงไปด้วยก็อร่อยไปอีกแบบนะ

Categories
ขนมหวาน

ลอดช่อง

ลอดช่อง เส้นเหนียวนุ่มหอมมัน เติมความหวานพร้อมทำงาน

ลอดช่อง

ถึงช่วงนี้จะไม่ใช่ฤดูร้อน แต่เราก็สามารถสรรหาขนมหวานเย็นชื่นใจ ไว้ทานให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยได้ ใครที่กำลังเบื่อ ๆ อยากลุกขึ้นมาทำขนมยามว่าง พร้อมกับทำขนมหวานแบบไทย ๆ วันนี้เราก็มีหนึ่งเมนูของหวานไทย อย่าง ลอดช่อง มาชวนทุกคนลองทำตามกันด้วย ยิ่งช่วงอยู่บ้านแบบนี้ ได้ลองทำเองทานเอง สูตรนี้คุณจะทำให้คุณได้ทานลอดช่องเหนียวนุ่ม ทานคู่กับกะทิหอมหวานใส่น้ำแข็งป่นลงไปยิ่งลงตัว ถือเป็นสูตร ลอดช่องกะทิสด ที่น่าลองทำตามมาก ๆ


ก่อนที่จะเริ่มทำลอดช่องกัน เราอาจจะต้องสำรวจก่อนว่าที่บ้านเรามีอุปกรณ์ทำลองช่อง และวัตถุดิบทำลองช่องรึเปล่า เริ่มจากอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้คือ ที่กดลองช่อง มันจะมีลักษณะเป็นคล้าย ๆ ถาดกลม ๆ มีรูกลมเจาะเต็มก้นถาด หรือบางที่ก็จะเป็นแผ่นเล็กสี่เหลี่ยม มีรูเล็ก ๆ เยอะ ๆ หรือจะเป็นพวกกระบวยมีรู แต่อย่างไรก็ตามหากไม่มีอุปกรณ์ทำลองช่องเลย อาจจะต้องสูงสุดคืนสู่สามัญโดยการปั้นที่ละเส้นตามแต่ละความพยายามของแต่ละคนไปเลย แล้วก็อีกอุปกรณ์ที่สำคัญไม่แพ้กันใช้ในการกวนแป้ง คือ กระทะทองเหลือง ที่จะทำให้แป้งไม่ค่อยติดกระทะ แต่หากไม่มีอีกก็กระทะเชฟล่อนซักใบก็ยังดี ส่วนวัตถุดิบและวิธีทำเส้นลอดช่องรวมถึงน้ำกะทิ เรามาลองดูกัน


วัตถุดิบของเส้นลอดช่อง


1. แป้งข้าวจ้าว 3 ถ้วยตวง
2. แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง
3. แป้งถั่วเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำปูนใส 5 ถ้วยตวง
5. น้ำใบเตยคั้นสดเน้นสีเขียวเข้ม 1 ถ้วยตวง


วัตถุดิบของกะทิราดลอดช่อง


1. น้ำตาลปี๊บ 3 1/2 ถ้วยตวง
2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
3. กะทิคั้นสด 5 ถ้วยตวง


วิธีทำลอดช่อง


ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากวิธีทำเส้นลอดช่อง ที่แสนจะซับซ้อนก่อน ให้นำแป้งข้าวจ้าว แป้งมัน และแป้งถั่วเขียว มาใส่อ่างผสม แล้วค่อย ๆ ใส่ น้ำใบเตยสีเขียวเข้มลงไปทีละน้อยแล้วนวดแป้ง ต่อด้วยใส่น้ำปูนใสทีละนิดแล้วนวดแป้ง ทำแบบนี้สลับใส่น้ำใบเตยและน้ำปูนใสแล้วนวดแป้งไปเรื่อย ๆ ต้องใจเย็น ๆ จนสุดท้ายจะได้น้ำแป้ง ที่แป้งละลายหมด


ขั้นตอนที่ 2 ใช้ผ้าขาวบางกรองตัวน้ำแป้งอีกครั้ง ก่อนนำลงกระทะทองเหลือง แล้วไปตั้งบนเตาเปิดไฟอ่อน ๆ กวนแป้งไปเรื่อย ๆ จนแป้งเหนียวข้นขึ้นมาและเข้ากันดี จากนั้นก็ทำให้กระทะเย็นลงอย่างรวดเร็วโดยการนำกระทะไปวางในกะละมังใส่น้ำเย็น ตัวแป้งจะหนึบขึ้นมาอีก แล้วจึงนำแป้งใส่ลงในที่กดลองช่อง และกดออกมาจนได้ลอดช่องเหนียวนุ่ม ลงมาอยู่ในน้ำสะอาด


ขั้นตอนที่ 3 ตัวเส้นสุดแสนยากได้ผ่านไปแล้ว เรามาทำน้ำกะทิกันต่อด้วยการใส่กะทิ น้ำตาลปี๊บ และเกลือผสมลงในอ่างผสม จนน้ำตาลปี๊ปละลายหมด จากนั้นกรองลงหม้อไปตั้งไฟกลาง ๆ เคี่ยวไปจนกะทิเริ่มเดือด ไม่ให้เดือดมากเกินไปเพราะกะทิอาจแตกมันได้ ปิดไฟแล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็น แล้วก็ตักใส่ถ้วยใส่เส้นลอดช่องใส่น้ำแข็งป่นพร้อมทานให้หวานเย็นชื่นใจ


ยังไงก็ตามเมนู ลอดช่อง ที่นำมาฝากกันวันนี้ อาจจะไม่ใช่สูตรลอดช่องวัดเจษเจ้าดัง แต่ก็ถือว่าพอจะให้มือใหม่หัดทำได้ลองทำดูง่าย ๆ ก่อน อ๋อ ลืมบอกบางคนที่ไม่ชอบลอดช่องสีเขียว ๆ หรือลอดช่องไทยแบบนี้อาจจะลองหาสูตรทำลอดช่องสิงคโปร์รสชาติหนึบหนับใส่กะทิ ใส่น้ำแข็งลองทำดูแทนก็ได้นะ สดชื่นชุ่มฉ่ำไม่แพ้กันแน่นอน

Categories
ขนมหวาน

กล้วยบวชชี

ฉ่ามมมมาก! สูตรเมนู กล้วยบวชชี ทั้งฉ่ำ ละมุน นุ่มลิ้น อาหร่อยเว่อร์


ใครเคยเป็นบ้างตอนซื้อกล้วยมาทีไร มักจะกินไม่ทันทุ๊กกกที ต้องคอยหาวิธีแปรรูปกล้วยตลอด จะกวนก็ดูยุ่งย่าง จะปิ้งก็ไม่มีเตา จะทำขนมกล้วยแหมต้องนึ่งอีก ดูยุ่งยากไปหมด ดูสูตรไปมาจนตัดสินใจได้ว่า เมนูขนมกล้วยบวชชีจะต้องเวิร์คแน่ ๆ ขนมไทยถ้วยนี้หากได้ลิ้มลองแล้วอร่อยจนขอยกซด ด้วยรสชาติที่หอม หวาน มีเทกเจอร์หนึบ ๆ กินแล้วดีต่อใจ ฟินสุด ๆ ตอนนี้ใครที่มีกล้วยอยู่ในบ้านไป เตรียมไว้ก่อนเลย เพราะอ่านบทความนี้จบ ได้ทำกันแน่นอน


แจกสูตร กล้วยบวชชี และเคล็ดลับความอร่อย

กล้วยบวชชี

พอพูดถึงกล้วยบวชชี น้ำลายเริ่มแตกเลยทีเดียว เพราะเนื้อสัมผัสของกล้วยที่ต้มสุกพอดี เต่ง ตึง บวกด้วยรสชาติกลมกล่อมของน้ำกะทิ เนื้อกล้วยที่กัดไปแล้วละมุน หูยยย…อดใจไม่ไหวแล้วทุกคน รีบลงมือทำกล้วยบวชชีสูตรโบราณกันเถอะ!


ส่วนผสม


1. กล้วยน้ำว้า 8 ลูก
2. กะทิกล่อง 250 มิลลิตร (หัวกะทิ)
3. หางกะทิ 300 มิลลิลิตร
4. น้ำตาลปี๊บ 30 กรัม
5. น้ำตาลทรายขาว 20 กรัม
6. เกลือ 1/4 ชช
7. ใบเตย 2 ใบ


วิธีทำกล้วยบวชชี สูตรกะทิกล่อง

กล้วยบวชชี

1. ล้างกล้วยทั้งเปลือกด้วยน้ำเปล่า แล้วตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ใส่กล้วยลงไปต้มทั้งเปลือกประมาณ 15 นาที การต้มทั้งเปลือกแบบนี้จะเป็นวิธีทำกล้วยบวชชีไม่ให้เปรี้ยว
2. ให้สังเกตว่าถ้าเปลือกกล้วยเริ่มแตก เป็นอันใช้ได้ ตักขึ้นพักไว้ก่อน
3. ปอกเปลือกกล้วย ทำการหั่นแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
4. ตั้งหม้อด้วยไฟอ่อน ๆ ใส่หางกะทิลงไป ตามด้วยใบเตยแล้วเคี่ยวจนเดือด ให้ใส่น้ำตาล เกลือ คนจนส่วนผสมละลาย ใส่กล้วยที่หั่นไว้ และหัวกะทิ หลังจากนั้นปิดไฟ ยกลงจากเตา


เคล็ดลับ: หลายคนประสบปัญหาทำแล้วกล้วยฝาด เราเลยมีวิธีทำกล้วยบวชชีไม่ให้ฝาด โดยการเลือกกล้วยห่าม ๆ กึ่งสุกกึ่งดิบ และสำหรับหางกะทิหากเพื่อน ๆ ที่ใช้กะทิกล่อง สามารถทำหางกะทิได้โดยการนำหัวกะทิไปผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เพียงเท่านี้ก็จะได้หางกะทิ


หวานดีมีประโยชน์จากกล้วยน้ำว้า

กล้วยบวชชี

ขนมไทยกล้วยบวชชี นอกจากอร่อยแล้ว ยังมีวิธีการทำไม่ยุ่งยาก เป็นกล้วยบวชชีง่ายๆ ใคร ๆ ก็ทำได้ และกล้วยบวชชี ประโยชน์ที่ได้จากกล้วยน้ำว้าคือ แคลเซียม เพราะกล้วยที่ถูกต้มทำให้ร่างกายของเราดูดซึมแคลเซียมจากกล้วยได้มากกว่าปกติ และยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายด้วยล่ะ


จากการกินกล้วยธรรมด๊า ธรรมดา เอามาแปรรูปเป็นขนมหวานไทยเมนูที่ใครก็ชื่นชอบ เพื่อน ๆ จะทำกินเอง หรือเอาไปแจกข้างบ้าน บอกเลยว่างานนี้ยังไงก็ต้องแฮปปี้ อิ่ม อร่อยชัวร์