Categories
อาหารคาว

หมูทอดกะปิ

หมูทอดกะปิ กรอบนอกนุ่มใน หอมสมุนไพร

หมูทอดกะปิ

กะปิ เครื่องปรุงรสที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะนำมาทำน้ำพริก ทำเมนูผัด เมนูต้ม หรือน้ำจิ้ม ถือว่าเป็นเครื่องปรุงที่ทำให้อาหารมีรสชาติอร่อย กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นกะปิยังสามารถนำมาเป็นส่วนผสมที่ใช้ทำเมนูทอดได้เช่นกัน อย่างหมูทอดกะปิ กับสูตร หมูทอดกะปิ ครัวคุณต๋อย เป็นสูตรทำกินเองได้จากที่บ้าน หรือจะทำขายก็ขายดิบขายดี สำหรับขั้นตอนการทำนั้นไม่ได้ยุ่งอยากอะไร เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบไม่กี่อย่าง อุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นก็สามารถทำเมนูอร่อย ๆ นี้ได้


วัตถุดิบหมูทอดกะปิ


1. เนื้อหมูสามชั้นลอกหนังหั่นพอดีคำ 5 กิโลกรัม
2. น้ำมันพืชสำหรับทอด 3 ขวด
3. กะปิแท้ 3 ขีด
4. น้ำตาลมะพร้าว 3 ขีด
5. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
6. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
7. พริกแห้ง ตามชอบ
8. ใบมะกรูด ตามชอบ


วิธีการทำ หมูทอดกะปิ


1. ผสมกะปิ น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา ซอสหอยนางรมให้เข้ากันในอ่างผสมอาหาร คนจนส่วนผสมทุกอย่างละลาย ซึ่งบางสูตรอาจจะเลือกใช้น้ำตาลปี๊บ แต่การเลือกใช้น้ำตาลมะพร้าวจะทำให้ หมูกะปิหวาน อ่อน ๆ ไม่หวานโดด และไม่กลบความเค็มของกะปิ
2. ต่อจากนั้นให้นำเนื้อหมูสามชั้นเทลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน หาถุงหรือพลาสติกแรปมาปิดไว้ นำแช่ตู้เย็นหนึ่งคืน สำหรับใครที่ไม่กินหมูอยากเปลี่ยนเป็น ไก่ทอดกะปิ ก็ได้เช่นกัน โดยใช้ส่วนสะโพกไก่ หรือน่องไก่ และเพิ่มวัตถุดิบแป้งทอด เพื่อใช้สำหรับคลุกเคล้าเนื้อไก่ก่อนนำลงไปทอด
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เปิดไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนให้เทพริกแห้ง และใบมะกรูดลงทอด หากดูกรอบแล้วให้ตักพักสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นนำหมูสามชั้นที่หมักไว้ลงทอดต่อโดยไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมัน ทอดให้สุกประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ตักออกพักไว้ก่อน
4. เคล็ดลับการทำ หมูกะปิ วิธีทำ ให้เนื้อหมูสามชั้นกรอบนอกนุ่มใน ทำได้โดยนำหมูที่ทอดจากรอบแรกลงไปทอดซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำมันใหม่ และต้องใช้ไฟแรง ทอดจนสุกดี มีสีน้ำตาลเข้ม ให้ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จขั้นตอน สามารถจัดเสิร์ฟโดยการโรยพริกทอด และใบมะกรูดทอดเพื่อความหอมและน่ากิน


หมูทอดกะปิให้รสชาติที่อร่อยไม่แพ้การทอดหมูด้วยสูตรอื่น ๆ เลย ใครที่ไม่ชอบเมนูทอดสามารถทำเป็น เมนูผัดกะปิ อย่าง หมูผัดกะปิ พริกสด แทนได้ ทั้งนี้ในการเลือกเนื้อหมู และกะปินั้นสำคัญมาก ๆ หากอยากได้เนื้อหมูส่วนที่อร่อย นุ่ม นิ่ม ควรใช้เนื้อหมูสามชั้นส่วนราวนม หรือสันคอ ไม่ว่าจะทอด หรือผัดเนื้อหมูจะออกมาฉ่ำ อร่อย และกะปิก็ควรเลือกกะปิแท้ ที่มีสีแดงออกม่วง เนื้อละเอียด เนียนสวย

Categories
อาหารคาว

กุ้งอบวุ้นเส้น

กุ้งอบวุ้นเส้น ทำง่ายได้รสชาติเหมือนภัตตาคาร

กุ้งอบวุ้นเส้น

กุ้งอบวุ้นเส้น เมนูอาหารไทยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน ยิ่งถ้าใครเคยไปแถวเยาวราชจะต้องเจอร้านดังที่มีเมนูนี้ขาย แต่ถึงอย่างไรอาหารจานนี้ก็สามารถทำกินเองได้ง่าย ๆ ทั้งยังมีเคล็ดลับที่อยากนำมาบอกต่อด้วยว่า กุ้งอบวุ้นเส้นใช้วุ้นเส้นอะไร กุ้งอบวุ้นเส้นใส่อะไรบ้าง ถ้าเรื่องของวุ้นเส้นแนะนำว่าควรเลือกวุ้นเส้นแห้งทำมาจากถั่วเขียวแท้จะทำให้เส้นนุ่ม เหนียว ยืดและอร่อยมาก สำหรับเมนูนี้ใส่อะไรบ้าง แน่นอนว่าต้องมีกุ้งสด แต่สำหรับส่วนผสมอื่น ๆ และขั้นตอนการทำ สามารถเลื่อนลงไปดูพร้อม ๆ กันเลย


ส่วนผสม กุ้งอบวุ้นเส้น


1. กุ้งขาวสด 5 ตัว
2. หมูสามชั้น 200 กรัม
3. วุ้นเส้น 1 ห่อ
4. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
5. น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
6. ซีอิ๊วดำ ½ ช้อนชา
7. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
8. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำเปล่า 1 ถ้วย
10. ขิงแก่หั่นแว่น 5 แว่น
11. กระเทียม 3 กลีบ
12. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
13. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
14. ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
15. ต้นหอม 2 ต้น


ขั้นตอนการทำกุ้งอบวุ้นเส้น


1. ล้างทำความสะอาดกุ้งโดยการผ่าหลัง ตัดหนวดกุ้งออก แต่เก็บหัวกุ้งไว้ ต่อด้วยการนำวุ้นเส้นไปแช่ในน้ำทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
2. หั่นหมูสามชั้นให้มีขนาดพอดีคำโดยการลอกหนังแข็ง ๆ ออก สำหรับคนที่ทำ กุ้งอบวุ้นเส้น ไม่ใส่มันหมู สามารถใส่น้ำมันหรือเบคอนแทนได้
3. โคลกสามเกลอ เริ่มที่รากผักชี พริกไทยดำ กระเทียม ตำให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยไว้ก่อน
4. ผสมซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ เข้าด้วยกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปราดลงบนวุ้นเส้นที่สะเด็ดน้ำ ทำการคลุกเคล้าให้น้ำซอสกระจายทั่ว ๆ วุ้นเส้น
5. ใครที่ไม่มีหม้อดิน หรือหม้ออบ สามารทำ กุ้งอบวุ้นเส้นในกระทะ หรือ กุ้งอบวุ้นเส้นหม้อหุงข้าว ได้ โดยทำการตั้งกระทะเปิดไฟกลาง เริ่มใส่หมูสามชั้น ขิง สามเกลอ น้ำมันงา ผัดจนหมูสุกเล็กน้อย ตามด้วยวุ้นเส้น กุ้ง แล้วปิดฝาไว้ สำหรับคนที่ใช้หม้อหุงข้าว ยังไม่ต้องเปิดไฟให้จัดเรียงส่วนผสมก่อน แล้วค่อยเปิดไฟปกติเหมือนตอนหุงข้าว ทั้งสองวิธีจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าซอสจะแห้ง ให้ปิดไฟ ตักใส่จาน พร้อมตกแต่งโรยหน้าด้วยต้นหอม ขึ้นฉ่าย และพริกไทยป่น


จุดเด่นของกุ้งอบวุ้นเส้น จะอยู่ที่น้ำซอสปรุงรส ถ้าหากอยากเพิ่มรสชาติให้ลงตัวมากขึ้น สามารถใส่เหล้าจีนได้ 1 ช้อนชา วิธีทำกุ้งอบวุ้นเส้น ง่ายๆ สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีหม้อดินเหมือน กุ้งอบวุ้นเส้นโบราณ ใช้กระทะ หรือหม้อหุงข้าวก็ยังอร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความสะดวกสบายในการทำนั้นเอง

Categories
อาหารคาว

แกงเทโพ

แกงเทโพ

แกงเทโพ เป็นอาหารที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ความอร่อยของแกงเผ็ดชนิดนี้ถึงขนาดทำให้ ร.2 พระราชนิพนธ์ถึง แกงเทโพเป็นอาหารของภาคกลาง แต่เดิมจะใช้ ปลาเทโพ ตามชื่ออาหารเป็นส่วนประกอบหลัก แต่ในยุคปัจจุบันถูกเปลี่ยนแปลงปรับปรุงไปตามความชอบและการประยุกต์ตามสมัยนิยมมากขึ้น มีการใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นไม่ว่าจะ หมู ไก่ หรือ ปลาชนิดอื่นมาทำแกงเทโพ

แกงเทโพ

แกงเทโพ เป็นแกงเผ็ดชนิดหนึ่งที่ใช้กะทิ ผักบุ้ง และ เนื้อสัตว์ เป็นส่วนประกอบหลัก แกงเทโพเป็นแกงกะทิรสเข้มข้น รสชาติเปรี้ยวนิด เค็มนำ หวานเล็กน้อย เรามาดูส่วนผสมและวิธีทำแกงเทโพกันดีกว่า


ส่วนผสม


– มะพร้าวขูด 500 กรัม นำมาคั้นเอาหัวกะทิ 1 ถ้วย และ น้ำกะทิ 3 ½ ถ้วย หรือถ้ามีหัวกะทิสำเร็จรูปก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
– ผักบุ้ง 1 กำ หรือถ้าชอบผักเยอะผักน้อย สามารถใส่ตามใจชอบได้
– เนื้อสัตว์ อาจเป็น เนื้อหมู เนื้อปลา หรืออื่นๆตามแต่ต้องการ ใส่ตามประมาณที่ต้องการไม่มากไม่น้อยเกินไป
– น้ำมะขามเปียก 4 – 5 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ โดยประมาณ


พริกแกงเทโพ ถ้าทำเครื่องแกงเทโพเองต้องใช้วัตถุดิบ ดังนี้


พริกแห้ง 10 เม็ด
ข่า 3 แว่น
ตะไคร้หั่นฝอย 2 ต้น
ผิวมะกูด 1 ช้อนชา
พริกไทยเม็ด 10 เม็ด
หอมแดง 3 หัว
กระเทียม 5 กลีบ
รากผักชีหั่น 3 ต้น
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือเม็ดเล็กน้อย



วิธีทำแกงเทโพ และ ส่วนผสมเครื่องแกงเทโพ


1. ถ้าไม่มีพริกแกงเทโพสำเร็จรูปให้เริ่มทำพริกแกงก่อน นำพริกแห้งมาแช่น้ำให้นุ่ม แล้วนำไปโขกกับเกลือเม็ดพอแหลก
2. ตามด้วย ข่า ผิวมะกรูด รากผักชี และ พริกไทยเม็ดลงไป นำทุกอย่างมารวมกันแล้วโขลกให้ละเอียด แล้วใส่หอมแดง กระเทียม และ กะปิ โขลกส่วนผมทั้งหมดให้ละเอียดอีกครั้ง เช็คดูว่าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีรึยัง
3. หลังจากนั้นนำเนื้อสัตว์ตามต้องการมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำลูกมะกรูดมาผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก ส่วนใบมะกรูดให้เลือกใช้ใบแก่จะได้มีกลิ่นหอม นำไปล้างน้ำแล้วฉีกเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้
4. นำมะขามเปียกแช่น้ำ แล้วนำมาคั้นให้ได้น้ำมะขามเปียกประมาณครึ่งถ้วย
5. เลือกผักบุ้งยอดอ่อนมาตัดส่วนโคนออก ล้างน้ำให้สะอาด คัดใบเสียออกให้หมด จากนั้นหั่นเป็นท่อน แช่น้ำเตรียมไว้
6. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง เทหัวกะทิเทลงไปในกระทะครึ่งหนึ่ง รอให้กะทิเดือดและแตกมัน มั่นคนเป็นระยะ ๆ ไม่ให้กะทินั้นจับตัวเป็นก้อน
7. หลังจากกะทิแตกมันดีแล้ว ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ลงไปประมาณ 1 ขีด ยีพริกแกงให้เข้ากับกะทิแล้วผัดไปเรื่อย ๆ ถ้าแห้งให้เติมน้ำหางกะทิลงไปเพิ่ม ทำแบบนี้จนเริ่มส่งกลิ่นหอม และแตกมันสวยงาม
8. จากนั้นใส่เนื้อสัตว์ตามต้องการลงไป ผัดให้เข้ากันกับพริกแกง พอเนื้อสัตว์เริ่มสุก ค่อย ๆ เทหางกะทิที่เหลือลงไป
9. จากนั้นเร่งไฟให้แรงขึ้น ปรุงรสโดยใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก เกลือป่น และ น้ำปลา 2 ช้อน ชิมดูว่าได้รสเปรี้ยวเค็มหวานที่ลงตัวรึยัง
10. พอน้ำแกงเดือดเต็มที่ นำผักบุ้ง และ มะกรูดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวกดให้ผักบุ้งจมน้ำแกง ทำแบบนี้จนผักบุ้งสุกดี หลังจากนั้นใส่ใบมะกรูดลงไป ราดด้วยหัวกระทิที่เหลือ ½ ถ้วย คนให้เข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้งแล้วปิดไฟ พร้อมทานแกงเทโพแสนอร่อยที่ทำขึ้นเองได้เลย


ตามที่กล่าวมานั้นเรียกได้ว่าเป็นสูตรแกงเทโพโบราณเลยก็ว่าได้ นอกจากแกงเทโพโบราณ ที่ใช้ปลาเทโพมาเป็นวัตถุดิบหลักแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็ยังมีแกงเทโพที่ใช้เนื้อหมู หรือ หมูสามชั้นที่ต้มจนได้ที่ แต่ที่เด็ดและน่าสนใจไม่แพ้แกงเทโพดั้งเดิมเลยก็คือ แกงเทโพปลาเค็ม และ แกงเทโพปลาโอ มาว่ากันที่แกงเทโพปลาเค็มกันก่อน ทำทุกอย่างเหมือนแกงเทโพต้นตำหรับ เพียงแต่นำปลาเค็มไปสับเป็นชิ้นและแช่น้ำเกลือไว้เพื่อลดความเค็มลง ส่วน แกงเทโพปลาโอนั้นนำปลาโอไปย่างเพื่อให้ได้กลิ่นหอมของเนื้อปลา หรือถ้าคนไม่ชอบปลาย่าง จะนำไปต้มหรือทอดก็ได้ตามสะดวกไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่การเรียนรู้ในห้องครัว และความอร่อยบนโต๊ะอาหาร ขอให้ทุกคนอร่อยกับมื้ออาหารวันนี้

Categories
อาหารคาว

กุ้งผัดผงกะหรี่

สูตรเด็ดเมนู กุ้งผัดผงกะหรี่ อร่อยหอมเครื่องเทศจนน้ำลายไหล

กุ้งผัดผงกะหรี่

แกงกะหรี่เป็นอาหารขึ้นชื่อที่ถือกำเนิดจากประเทศอินเดียและกลายเป็นอาหารยอดนิยมที่แพร่หลายไปทั่วโลก ในแต่ละประเทศ แกงกะหรี่ ก็จะแตกต่างกันออกไปทั้ง ผัดผงกะหรี่ไทย แกงกะหรี่ญี่ปุ่น กะหรี่จีน กะหรี่เวียดนาม กะหรี่ฝรั่งเศส กะหรี่อินเดียที่เป็นของแท้ดั้งเดิม มีทั้งแบบน้ำ แกงเผ็ดประเภทน้ำข้น และ แบบแห้ง แต่ละประเภทก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป


และเมนูที่เราอยากจะมาแนะนำวันนี้ก็คือ กุ้งผัดผงกะหรี่ ผัดผงกะหรี่แบบไทย ๆ ที่ถูกประยุกต์นิดหน่อยจนได้สูตรเด็ดที่ต้องบอกเลยว่าทำเอาติดอกติดใจไปกันตาม ๆ กัน วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเมนูกุ้งที่เอาไว้ไปทำกินกันที่บ้านได้สบายมาก


ส่วนผสม กุ้งผัดผงกะหรี่


– กุ้ง 300-500 กรัม ตามความต้องการ
– น้ำพริกเผา 2-3 ช้อนโต๊ะ (สูตรเด็ดต้องลอง)
– นมข้นจืด 1 กระป๋อง
– น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
– ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
– ไข่ 3 ฟอง
– น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
– กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
– หอมหัวใหญ่ 1 หัว
– ผงกะหรี่ 2-3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– ขึ้นฉ่าย 2 ถ้วย
– พริกชี้ฟ้าแดง 2 ช้อนโต๊ะ
– ต้นหอม 3 ตัน


วิธีทำ กุ้งผัดผงกะหรี่


– เริ่มจากการนนำถ้วยหรือชามมาใส่ น้ำพริก ผงกะหรี่ และ นมสด คนให้เข้ากัน
– จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และ น้ำตาล คนให้เข้ากันอีกรอบ
– นำไข่ที่เตรียมไว้ 3 ฟองมาตีจนเข้ากัน แล้วเทลงไปในน้ำกะหรี่ปรุงรสที่เตรียมไว้ คนให้ไข่และน้ำกะหรี่ปรุงรสเข้ากันอย่างดี
– ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง เติมน้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้ส่งกลิ่นหอม ตามด้วยหอมใหญ่ ผงกะหรี่ ผัดให้เข้ากันพอให้หอมใหญ่สุกและส่งกลิ่นหอม
– ใส่เนื้อกุ้งที่เตรียมไว้มาลงผัด พอกุ้งเริ่มมีสีแดงนิดหน่อย ให้ใส่ส่วนผสมน้ำกะหรี่ปรุงรสที่เตรียมไว้ตอนแรกผัดให้เข้ากัน ชิมรสชาติ ถ้ายังไม่พอใจ เติมเครื่องปรุงในสิ่งที่ขาดไปได้
– พอรสชาติได้ที่แล้ว คราวนี้ใส่ผักขึ้นฉ่ายหั่นท่อนลงไป ตามด้วย พริกชี้ฟ้าแดง และ ต้นหอมหั่นท่อน ผัดให้เข้ากันจนผักสุก ใครชอบผักเยอะผักน้อยก็เลือกใส่ตามใจชอบได้เลย เสร็จพร้อมทานได้แล้ว

หมึกผัดผงกะหรี่

ถ้าหากคุณอยากจะเปลี่ยนจากกุ้งอย่างเดียวเป็น ผัดผงกะหรี่ทะเล ก็สามารถเลือกเติมอาหารทะเลอื่น ๆ เช่น หอย ปลาหมึก ปู ปลา ลงไปได้ เราอยากแนะนำเคล็ดลับความหอมอร่อยด้วยการ นำ ปลา ไปย่างให้ได้ที่จนส่งกลิ่นหอมแล้วค่อยนำมาผัด หรือจะนำปลาไปทอดจนหอมกรอบอร่อยก่อนมาทำผัดผงกะหรี่ก็ได้ ก็จะทำให้ได้รส ผัดผงกะหรี่ทะเล ที่ส่งกลิ่นหอมของการทอดปลาหรือย่างปลานั่นเอง หรือจะเป็น ผัดผงกะหรี่ปลาเดี่ยว ๆ ก็บอกเลยว่าแซ่บมากกกกก ต้องลอง!